เมียน้อย เปิดหน้าร้องสื่อ หลังคบหากับตำรวจระดับผู้กำกับ มา 5 ปี มีลูก 1 คน แต่ถูกตีตัวออกหาก

เมียน้อย เปิดหน้าร้องสื่อ หลังคบหากับตำรวจระดับผู้กำกับ มา 5 ปี มีลูก 1 คน แต่ถูกตีตัวออกหาก

View icon 2.5K
วันที่ 12 ก.ค. 2566 | 15.23 น.
ข่าวช่อง7HD
แชร์
เมียน้อย เปิดหน้าร้องสื่อ หลังคบหากับตำรวจระดับผู้กำกับ มา 5 ปี มีลูก 1 คน แต่ถูกตีตัวออกหาก จากเงินค่าเลี้ยงดูที่ได้หลักแสนต่อเดือน ตอนนี้ไม่มีสักบาท ซ้ำ ผู้กับกับไม่ยอมเซ็นรับรองบุตร และจับมือกับเมียหลวง ฟ้องชู้ตัวเอง เรียกเงินชดใช้กว่า 1 ล้าน บาท

นางสาวเอ อายุ 36 ปี เดินทางมายื่นหนังสือที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอเปลี่ยนคณะกรรมการสอบสวน หลังยื่นเรื่องให้ตรวจสอบทางวินัยผู้กำกับรายหนึ่งที่จังหวัดสระบุรี ที่ตนเองคบหาแบบไม่เปิดเผย การที่มายื่นเรื่องเปลี่ยนคณะกรรมการตรวจสอบวันนี้ เพราะคณะกรรมการสอบสวนที่จังหวัดสระบุรี อาจจะไม่เป็นธรรม เนื่องจากคณะทำงาน ที่เคยอยู่ที่ทำงานเก่าของผู้กำกับรายนี้

นางสาวเอ เผยว่า ตนเองเคยมาร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว 1 ครั้ง และวันนี้ต้องการมายื่นเรื่อง ขอเปลี่ยนคณะกรรมการสอบสวน ผู้กำกับคนหนึ่งที่จังหวัดสระบุรี ที่มีความสัมพันธ์กับตนเองในลักษณะคบหาเชิงชู้สาว แบบไม่เปิดเผย โดยคบหากันมาประมาณ 5 ปี และมีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 2 ขวบ 5 เดือน แต่ผู้กำกับคนนี้ ไม่รับผิดชอบอะไรเลย นอกจากนั้น ยังหลบหนีติดต่อไม่ได้ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว เพราะผู้กำกับรายนี้ไปติดผู้หญิงคนใหม่ และทิ้งตนเองกับลูกไปเลย จนถึงปัจจุบัน ลูกของตนเองนั้นยังไม่ได้เซ็นรับรองบุตร เพราะผู้กำกับรายนี้บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด

เล่าย้อนกลับไป เมื่อปี 2561 ผู้กำกับคนนี้มาจีบตนเอง และบอกกับตนเองเลยว่ามี "ภรรยาแล้ว" แต่กำลังจะเลิกกับภรรยา เพราะภรรยานิสัยไม่ดี ผู้กำกับคนนี้ขอร้องคุกเข่าขอแต่งงานด้วยสินสอด 1 ล้านบาทแ ต่ขอเวลา 1 ปี จะไปเลิกกับภรรยา โดยบอกว่าถึงไม่มีตนเองก็จะเลิกกับภรรยาอยู่แล้ว แต่พอถึงเวลาที่ภรรยาของผู้กำกับคนนี้จับได้จริงๆ ผู้กำกับคนนี้ก็โทรมาเล่าให้ตนเองฟัง แล้วยังบอกอีกว่า จะออกไปซื้อคอนโด และเริ่มชีวิตใหม่ พร้อมกับถามตัวเองว่า จะสู้ไปกับเขาหรือไม่ แต่สุดท้ายแล้วเขาง้อกัน แล้วก็กลับไปคืนดีกัน ผู้กำกับคนนี้จึงโทรกลับมาบอกตนเองว่า "เขาไม่สามารถเลิกกับภรรยาได้" และเขาขอเลิกกับตนเอง โดยยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ 1 ล้านบาท

หลังจากที่ผู้กำกับรายนี้ตีตัวออกห่าง ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2565 ก็ไม่ยอมเคลียร์เรื่องราวให้ชัดเจน จนตนเองลงพื้นที่ไปที่จังหวัดสระบุรี แล้วไปจ้างเด็ก Entertain มาคุย ซึ่งเด็ก Entertain บอกกับตนเองว่า กำลังคบหากับผู้กำกับคนนี้อยู่ และเลี้ยงดูกัน ทั้งที่ผู้กำกับที่ไม่ส่งเงินให้ตนเองและลูกเลยแม้แต่บาทเดียว รวมถึงมีพฤติกรรมหลบหนีอีกทั้งยังท้าทายว่า ให้ตนเองดำเนินการตามที่ต้องการได้เลย โดยบอกว่าตนเองไม่สามารถทำอะไรผู้กำกับได้ เพราะเขาเป็นนายตำรวจดีเด่นคนหนึ่ง นางสาวเอ ยังบอกอีกว่า เคยไปหาในสถานที่ทำงาน ซึ่งผู้กำกับคนนี้ส่งลูกน้องออกมาคุย และลูกน้องบอกกับตัวเองว่า "ให้กลับไปก่อน ตอนนี้นายท่านกำลังหลงเด็ก เดี๋ยวจะคุยให้"

ตนเองยอมรับว่า ไม่ใช่ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ ณ ตอนนี้ได้ยุติความสัมพันธ์ทุกอย่างไว้หมดแล้ว เพราะผู้กำกับคนนี้ติดเที่ยวติดดื่มหนักมาก และรู้อยู่แล้วว่าหลังจากออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ สังคมต้องต่อว่าแน่นอน แต่คิดมานานกว่า 7 เดือนแล้ว ขณะนี้ตนเองเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน ต้องรับหมายศาล จากผู้กำกับ และเมียหลวง 2 หมาย คือ หมายศาลที่ผู้กำกับรายนี้ ฟ้องเรื่องหมิ่นประมาท เรียกเงิน 300,000 บาท และหมายศาลที่ผู้กำกับกับเมียหลวง ฟ้องตนเองเรื่องเป็นชู้ รียกค่าเสียหายอีก 1 ล้านบาท ซึ่งเรื่องการฟ้องชู้ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ตนเองเพิ่งไปศาลมา ก็เห็นผู้กำกับคนนี้ พร้อมกับเมียหลวงไปศาลด้วยกัน และช่วยกันต่อสู้ เอาผิดกับตนเอง โดยผู้กำกับเสนอเงื่อนไข 5 ข้อ คือ
1.ให้เลิกติดต่อ ซึ่งข้อนี้ตนเองยอมได้
2.ไม่ให้บอกเรื่องราวต่างๆกับภรรยา ข้อนี้ตนเองยอมรับได้
3.ไม่ให้ไปที่ทำงาน ข้อนี้ตนเองมองว่า ถ้าหากยังไม่ได้รับความยุติธรรมหรือยังไม่รับความชัดเจนอย่างไรก็ต้องไป
4.เงินที่เรียกร้องไป 1 ล้านบาท ขอให้นำมาจ่ายเป็นค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร และให้ยอมรับค่าเลี้ยงดูบุตร 3,000 บาทต่อเดือน จนเด็กอายุ 20 ปี
5.ห้ามออกสื่อ ห้ามร้องเรียนไปที่หน่วยงานอื่นให้ร้องเรียนได้แค่ตำรวจ

แต่ขั้นตอนในขณะนี้ศาลยังไม่ได้ตัดสินว่า ตนเองจะต้องจ่าย 1 ล้านบาท หากเขาจะขอให้เงิน 1 ล้านบาทเป็นค่าเลี้ยงดูลูก ตนเองมองว่า เป็นคนละประเด็นกัน เพราะตนเองถูกฟ้องคดีชู้ แต่จะให้หักลบกลบหนี้กับค่าเลี้ยงดูบุตร ตนเองยอมรับไม่ได้ในข้อเสนอนี้ เพราะตนเองตั้งใจจะฟ้องเรื่องค่าเลี้ยงดูบุตรอยู่แล้ว ซึ่งทางผู้กำกับก็พยายามที่จะบีบตนเอง โดยบอกว่าถ้าหากรับไม่ได้ตนเองก็จะสู้เขาไม่ได้เหมือนกัน

ก่อนหน้านี้ ที่ยังคบกับ ผู้กำกับให้ค่าเลี้ยงดูหลักแสนขึ้นไปต่อเดือน เป็นแบบนี้มาประมาณ 2 ปี ตั้งแต่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งยศผู้กำกับ ซึ่งตนเองคบหากับผู้กำกับรายนี้มา 5 ปี แต่ไม่ได้อยู่กินกัน เพราะอยู่คนละจังหวัดกัน ไม่ได้ไปมาหาสู่กันบ่อย เพียงขอแค่ให้เขารับผิดชอบตัวเองกับลูกเท่านั้น  ก่อนหน้าที่จะขึ้นเป็นระดับผู้กำกับ ก็จะได้รับค่าเลี้ยงดูไม่เกิน 20,000 บาทต่อเดือน เงินค่าเลี้ยงดู ล่าสุดที่ได้รับจากผู้กำกับรายนี้คือเดือนพฤศจิกายน 2566 และหลังจากนั้นก็ไม่ได้อีกเลย

การออกมาเปิดโปงในครั้งนี้ ตนเองต้องการที่จะเห็นบทลงโทษทางวินัยแค่นั้น เพราะตนเองมองว่าให้โอกาสกันมานานแล้ว และเขาไม่มีสำนึก เขาต้องน่าจะได้รับอะไรบ้าง หากผลการตรวจสอบออกมา แล้วผู้กำกับ ถูกดำเนินการทางวินัย อาจถึงขั้นไล่ออก แม้จะไม่ได้ค่าเลี้ยงดู แต่ตนเองยอมรับได้ เพราะนี่คือสิ่งที่ต้องการ ทุกวันนี้ตนเองก็หาเลี้ยงลูกเองทุกอย่างอยู่แล้ว และมองว่าผู้กำกับรายนี้ไม่มีความรับผิดชอบ และไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้บังคับการระดับสูง