ผู้ต้องการใช้เงินด่วนมักจะคิดถึง “สินเชื่อส่วนบุคคล” หรือบัตรกดเงินสด แต่ก่อนจะขอกู้ขอกดมีคำแนะนำให้ถามและตอบตัวเองให้ได้ 5 ข้อนี้ก่อน ช่วยให้หนี้ไม่บานปลายได้
ในวันที่เรามีปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน หรือจำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วน เรามักจะนึกถึง ‘สินเชื่อส่วนบุคคล’ โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงาน พนักงานบริษัทที่มีเงินเดือนประจำ กลุ่มเจ้าของกิจการหรือผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ เช่น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ฟรีแลนซ์ เรียกว่าเป็นแหล่งเงินที่ตอบโจทย์ เป็นตัวช่วยฉุกเฉินเรื่องเงินได้ทันที แต่ต้องแลกมาด้วยภาระหนี้สิน และอัตราดอกเบี้ยสูงเป็นพิเศษ
สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นแหล่งเงินฉุกเฉินที่อนุมัติให้ผู้ขอสินเชื่อสามารถนำเงินก้อนไปใช้จ่ายในเรื่องที่ต้องการได้โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ในการค้ำประกัน
ปัจจุบัน สถาบันการเงินต่าง ๆ นำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลหลากหลายรูปแบบเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า โดยหนึ่งในผลิตภัณฑ์ยอดนิยม คือ ‘บัตรกดเงินสด’ ทั้งนี้ สถาบันการเงินจะพิจารณาให้สินเชื่อจากวงเงินที่ต้องการขอ, เอกสารหรือข้อมูลแสดงรายได้, ภาระหนี้สินในปัจจุบัน รวมทั้งประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมาของผู้ขอสินเชื่อ
แต่ทุกครั้งที่เราจะขอใช้สินเชื่อส่วนบุคคล หรือบัตรกดเงินสด เราต้องใช้อย่างรู้ทัน รู้วิธีว่า สินเชื่อส่วนบุคคลเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะกับเราหรือไม่และควรขอสินเชื่อเท่าไรถึงจะเหมาะสมกับรายได้ และภาระการผ่อน เพื่อให้เราไม่ต้องแบกภาระหนี้และดอกเบี้ยที่สูงเป็นพิเศษ
กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล แนะนำให้เรา ลองถามตัวเองง่าย ๆ กับ ‘Checklist 5 ข้อ…ก่อนคิดขอสินเชื่อส่วนบุคคล’
อยากขอสินเชื่อไปทำอะไร ?
– แนวคิดพื้นฐานก็คือ ‘คิดก่อนใช้ ใช้เท่าที่จำเป็น’ ก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อ ลองถามตัวเองก่อนว่า ต้องการเงินก้อนนี้ไปทำอะไร จำเป็นจริง ๆ หรือไม่ เช่น ขอสินเชื่อเพื่อไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลก้อนใหญ่ เพื่อเป็นเงินทุนในการทำธุรกิจ หรือเพื่อรีไฟแนนซ์ลดภาระดอกเบี้ย เป็นต้น และควรถามตัวเองด้วยว่า สามารถรับผิดชอบภาระหนี้สินที่จะตามมาได้หรือไม่
ควรขอสินเชื่อวงเงินเท่าไร?
– แน่นอนว่า ใคร ๆ ก็อยากได้เงินก้อนใหญ่ แต่ต้องคิดก่อนว่า เงินก้อนนี้จะตามมาด้วยภาระดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน การกำหนดวงเงินที่ต้องการขอสินเชื่อส่วนบุคคลให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ ปกติแล้ว วงเงินสินเชื่อที่สถาบันการเงินอนุมัติ มักจะไม่เกิน 3-5 เท่าของรายได้ โดยเราควรจะคำนวณก่อนว่า หากหักค่าใช้จ่ายประจำ ค่ากินอยู่ในแต่ละเดือนแล้ว เราต้องสามารถรับผิดชอบจ่ายคืนเงินที่ต้องผ่อนชำระในแต่ละเดือนได้โดยไม่ลำบาก หากคำนวณแล้วคิดว่าอาจผ่อนชำระไม่ไหว อาจลดวงเงินที่จะขอสินเชื่อลง หรือยืดระยะเวลาในการผ่อนชำระให้นานขึ้น เพื่อลดภาระหนี้สินในแต่ละเดือนให้บริหารเงินได้คล่องตัวขึ้น
จะชำระเงินคืนได้เมื่อไร?
– เมื่อขอสินเชื่อมาแล้วอย่านิ่งนอนใจ เพราะแต่ละวันที่ผ่านไปก็หมายถึงภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ขั้นตอนต่อไปจึงควรวางแผนวิธีชำระเงินคืนและจัดสรรเงินใช้จ่ายอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลัง
แต่ละเดือน สามารถจ่ายคืนได้ตามกำหนดเวลาหรือไม่?
– กรอบเวลาวันเริ่มและสิ้นสุดการชำระเงินคืน กำหนดให้เรารู้จักรับผิดชอบวางแผนชำระคืนให้ตรงเวลา เพราะหากพลาดไปอาจเกิดภาระดอกเบี้ยตามมา ดังนั้น ก่อนขอสินเชื่อส่วนบุคคลจึงควรมั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการได้ ไม่ผิดนัดชำระเงินคืนในแต่ละเดือน โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีรายได้ประจำ เพื่อรักษาวินัยทางการเงินของตัวเองไว้
ควรวางแผนการใช้เงินในแต่ละเดือนอย่างไร?
– แต่ละเดือนเราควรวางแผนการใช้เงินเพื่อให้เห็นภาพรวมการใช้จ่ายของตัวเอง อย่างน้อยที่สุดเราต้องรู้รายรับ, รายจ่าย, ยอดหนี้ที่ต้องชำระคืน หากทำแบบนี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เรารู้ความสามารถในการชำระหนี้ของตัวเอง และสามารถหาทางปลดหนี้ได้เร็วขึ้น โดยอาจหาช่องทางหารายได้เสริม หรือลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลง เพื่อประหยัดเงิน เพิ่มสภาพคล่อง เพื่อให้เราหมดภาระหนี้สินได้เร็วขึ้น
แนวทางข้างต้นไม่เพียงเป็นหลักให้คิดก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น หากแต่ยังช่วยเพาะบ่มนิสัยสร้างวินัยทางการเงินที่ดีให้เกิดกับตัวคุณได้ด้วย เพราะท้ายที่สุดวินัยทางการเงินที่ดีจะเป็นหลักยึดให้คุณสามารถจัดการเรื่องการเงินของตัวเองได้อย่างมีสติอยู่เสมอ