สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - เรื่องเท้าแชร์โกงเงิน เป็นคดีคลาสสิกที่เห็นกันอยู่บ่อย ๆ แต่ละวง แต่ละกลุ่มที่เป็นข่าวก็มีความเสียหายไม่ใช่น้อย ๆ อย่างล่าสุดที่ไปร้องขอความช่วยเหลือกับตำรวจสอบสวนกลาง รวม ๆ กันแล้ว ก็มีความเสียหายสูงถึงกว่า 20 ล้านบาทด้วยกัน
คดีแรกตัวแทนผู้เสียหาย 20 คน จาก 100 คน ในจังหวัดนนทบุรี ที่ถูกเท้าแชร์ในจังหวัดสุพรรณบุรี โกงเงินรวมความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท เข้าแจ้งความกับตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดดำเนินคดีกับเท้าแชร์รายนี้
หนึ่งในกลุ่มผู้เสียหาย เล่าว่า ได้เล่นแชร์กับเท้าแชร์รายนี้ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยเท้าแชร์จะใช้วิธีการโพสต์เพื่อเรียกให้คนที่สนใจนำเงินมาร่วมลงทุนซึ่งช่วง 3 ปีแรก ก็ไม่มีปัญหาใด ได้เงินครบ กระทั่งปี 2564 เท้าแชร์ถูกศาลตัดสินจำคุกคดียักยอกทรัพย์ และให้การเท็จในชั้นศาล ทำให้ต้องติดคุกในเรือนจำอยู่นาน 1 ปี ก่อนจะพ้นโทษออกมาปี 2565 ตอนนั้นกลุ่มผู้เสียหายได้รวมตัวกันทวงเงินที่ลงทุนไป ซึ่งเท้าแชร์ก็ทำสัญญาว่าจะทยอยคืนเงินให้เดือนละ 20,000 บาท แต่พอคืนไปได้ 1 เดือน ก็หยุดส่งเงิน คราวนี้กลับท้าทายให้แจ้งความดำเนินคดี จนมีผู้เสียหายไปสืบรู้ความจริงว่าเท้าแชร์ไปเปิดแชร์วงใหม่ โดยใช้ชื่อบัญชีสามีตัวเองนำเงินไปใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือย แต่ไม่ยอมชดใช้เงินให้กลุ่มผู้เสียหาย จึงมารวมตัวร้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจ
อีกคดี ตำรวจกองบังคับการปราบปรามไปจับกุม นางธัญญพัทธ์ อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงสงขลาที่ถูกกล่าวหาว่า "โกงเจ้าหนี้" ได้ที่หน้าบ้านพักแห่งหนึ่ง แขวงและเขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
โดยคดีนี้มีผู้เสียหายเป็นลูกแชร์สูงอายุ แจ้งความดำเนินคดีกับ นางธัญญพัทธ์ ไว้กับตำรวจ สภ.หาดใหญ่ เมื่อปี 2564 ว่าได้เล่นแชร์กับผู้ต้องหาแล้วถูกโกงเงินไป ผู้เสียหายหลายคนมีฐานะยากจน เป็นผู้สูงอายุที่ตั้งใจออมเงินไว้ใช้ช่วงบั้นปลายชีวิต เคยมีการนำพวงหรีดกุหลาบดำเขียนไว้อาลัยไปวางไว้หน้าบ้านผู้ต้องหา เพราะถูกค้างค่าแชร์มานานกว่า 3 ปี รวมความเสียหายกว่า 6,000,000 บาท ตอนนั้นผู้ต้องหาบอกว่าจะขายบ้านที่ดินเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ แต่กลับหลบหนีออกนอกพื้นที่ไป กระทั่งตำรวจสืบรู้ว่าหลบหนีมากบดานตัวที่ย่านสายไหม จึงนำหมายศาลเข้าจับกุม
จากการสอบถาม นางธัญญพัทธ์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ไม่ขอให้การใด ๆ ในชั้นจับกุม รับแต่เพียงว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง ตำรวจจึงพาตัวนำส่ง สภ.หาดใหญ่ ดำเนินการตามกฎหมาย