“พรเพชร” แจงเหตุ 33 สว.ลาโหวตนายกฯ โดย ผู้นำเหล่าทัพ 6 คน ลาเพราะติดราชการสำคัญ บางส่วนยู่ต่างประเทศ และไม่ทราบภารกิจการประชุม วอนผู้กระทำการคุกคาม สว. โปรดหยุด พร้อมเตือน สมาชิกงด แสดงความเห็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุมสมาขิกวุฒิสภา โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุมประธานได้ชี้แจงถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อลงมติโหวตนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีสื่อโทรมาถาม ตนเองไม่ได้ตอบ เพราะยังไม่ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด จึงไม่ได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนในเรื่องใดๆ ในวันนี้ขอชี้แจงใน 3 เรื่อง ที่เกี่ยวข้องดังนี้ เรื่องการลาประชุมวุฒิสภา มีเหตุแห่งการลา 3 ประเภท
1. ไปราชการต่างประเทศของ สว. ที่ตนเองได้มอบหมาย จำนวน 2 คน
2. การลากิจของสมาชิกวุฒิสภาที่เป็นผู้นำเหล่าทัพ 6 คน เนื่องจากติดราชการสำคัญ ประกอบกับการประชุมร่วมรัฐสภา มีวาระการประชุม เรื่องเลือกนายกฯ เพียงวาระเดียว ผู้นำเหล่าทัพได้พิจารณาแล้ว แจ้งตนว่ายังอยู่ในราชการและไม่ประสงค์จะเข้าร่วมประชุม และยังมีการลากิจของ สว.อีก 9 คน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ทราบภารกิจการประชุมมาก่อน และบางส่วนอยู่ต่างประเทศ และบางคนมีภารกิจที่นัดหมายล่วงหน้า
3.ลาป่วย 16 คน
ดังนั้น การลาของสมาชิกจึงมี 33 คน
ส่วนการลงมติที่มีสมาชิกไม่ลงมติจำนวน 43 คน เท่ากับว่าลา 33 คน จึงมีผู้เข้าร่วมประชุมและไม่ลงมติ 10 คน
นายพรเพชร ยังระบุว่าขณะนี้มีสมาชิกวุฒิสภาแจ้งว่ามี บุคคลเข้าไปคุกคามและละเมิดความเป็นส่วนตัว ของสมาชิกและครอบครัว เช่น เข้าไปตรวจสอบสถานที่อยู่อาศัย สถานที่ธุรกิจ ใช้ถ้อยคำด่าว่า ไปยังครอบครัว ข่มขู่ให้เกิดความกลัว ตนในฐานะประธานวุฒิสภาเห็นว่า มีหน้าที่ต้องปกป้องคุ้มครองสมาชิก ให้ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของสมาชิกและครอบครัว ถึงได้ขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการช่วยดูแลสมาชิกกลุ่มสังคมชุมชน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนก็หวังว่าคนที่ได้ทำการคุกคาม โจมตีแทรกแซง นั้นไม่ควรจะทำ และตนก็หวังว่าถ้าไม่กระทำ ก็จะไม่มีความผิดอาญา และเรื่องที่ต้องทะเลาะกัน เรื่องนี้ไม่มีการกระทำก็ไม่มีความผิดอาญา ที่จะมาทะเลาะกันตลอดไป
ประธานพรเพชร ยังกล่าวถึงการ ยื่นเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ตนพิจารณาแล้วเห็นว่าสมาชิกไม่ควรแสดงความคิดเห็นโต้ตอบ กลับการดำเนินการเรื่องดังกล่าว เมื่อเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาจึงจะพิจารณาเรื่องนี้ อย่างมีวุฒิภาวะ กลั่นกรองกฎหมายที่นำเสนอ ไม่ควรโต้แย้งหรือโต้ตอบ ผู้ที่ อยู่ในสภาวะ ไม่พอใจ เหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น แล้วเสนอกฎหมายนี้ เมื่อเสนอกฎหมายแล้วค่อยพิจารณากันอย่างรอบคอบ เพื่อให้การแก้ไขกฎหมายนี้เป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักการ