"วราวุธ" เผย "เสรีพิศุทธ์" โทรตรงชวนร่วมรัฐบาล"พิธา" แต่ยังไม่ได้ให้คำตอบ ขอคุยกันในพรรคก่อน ย้ำจุดยืนค้านแก้มาตรา 112
วันนี้ (17 กรกฎาคม) นาย วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยผู้สื่อข่าวออนไลน์7HD ว่า พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้โทรมาหาเมื่อวานนี้ (16 ก.ค.) อ้างทางพรรคก้าวไกล ให้ทาบทามขอเสียงให้โหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี และชวนเพื่อไปร่วมรัฐบาล ซึ่งก็ขอขอบคุณ แต่เรื่องนี้จะต้องหารือกับผู้ใหญ่ของพรรค ถึงจุดยืนและแนวทาง คงไม่สามารถตัดสินใจด้วยตัวคนเดียวได้ ซึ่งตนก็ได้แจ้งพล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ว่ายังให้คำตอบทันทีทันใดไม่ได้ และเมื่อได้คุยกันแล้วจะติดต่อกลับไป ทั้งนี้ พรรคยังมีจุดยืนเดิม คือ ไม่แตะต้องเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 และเชิดชู เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
นายวราวุธ ยังกล่าวถึงแนวทางการลงมติโหวตนายกรัฐมนตรีรอบสอง ในวันที่ 19 ก.ค. ว่าจะมีการประชุมสส. รวมทั้ง น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้า และนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรค ล่วงหน้าก่อน 1 ชั่วโมง ที่รัฐสภา อย่างไรก็ตาม ยอมรับ ยังมีความสงสัยอยู่ว่าในเมื่อมีญัตติเสนอชื่อนายพิธาไปรอบแรกแล้วยังจะสามารถเสนอรอบสองได้อีกหรือไม่ เพราะตามข้อบังคับการประชุมของสภา หากญัตติใดมีการเสนอแล้ว ลงคะแนนจนเสร็จสิ้นแล้ว ก็ไม่น่าเสนอญัตติเดิมได้อีก จึงเป็นที่สงสัยว่า ในวันที่ 19 ก.ค. ทางพรรคก้าวไกล และ 8 พรรคร่วมยังสามารถเสนอญัตติเดิมอีกหรือไม่
ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนา มีแนวโน้มที่จะงดออกเสียงอีกใช่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ต้องขอดูก่อนว่ายังจะสามารถเสนอญัตติเดิมได้อีกหรือไม่ แล้วจึงจะหารือกันภายในพรรคอีกครั้งหนึ่ง “แต่อาจจะไม่งดออกเสียงแล้ว เพราะถ้าขัดกับแนวทางการทำงานของสภา เราก็ไม่เห็นด้วยที่จะเสนอซ้ำอีกครั้งหนึ่ง” และเมื่อถามย้ำถ้าพรรคก้าวไกลยังไม่ยอมถอยเรื่องมาตรา 112 ก็ไม่สามารถร่วมงานกันได้ใช่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า จะว่าอย่างนั้นก็ถูกต้อง หลายท่านอาจสงสัยว่าแล้วทำไมตอนแรก ชทพ.ถึงได้งดออกเสียง ก็ต้องขอเรียนว่าการงดออกเสียงของพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ได้แปลว่าไม่มีความเห็น แต่เราให้เกียรติคนที่เลือกพรรคก้าวไกลเข้ามา และเราให้เกียรติพี่น้องประชาชนที่เลือกทั้งพรรคเล็กและพรรคใหญ่ให้เข้าสภา จึงได้งดออกเสียงไป แต่ถ้าจะมีการดำเนินการอะไรที่ไม่ตรงแนวทางปฏิบัติ กฎ ระเบียบ ข้อบังคับรัฐสภา นั่นก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะลงคะแนน
ทั้งนี้ ไม่ว่า พรรคชาติไทยพัฒนา จะตัดสินใจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบสองอย่างไร ก็ไม่กังวลจะโดนทัวร์ลงเหมือน สว.เพราะ เราโดนทัวร์ลงมาเยอะแล้ว และเข้าใจดีว่าการโดนทัวร์ลงนั้นเป็นความคิดเห็นของคนกลุ่มหนึ่ง แต่ในเมืองไทยความคิดเห็นของแต่ละกลุ่มคนก็หลากหลาย เราต้องเคารพแนวทางที่แตกต่าง นั่นเป็นวิถีของประชาธิปไตย ไม่ใช่จะต้องเห็นเหมือนกันหมด และไม่ใช่ว่าจะบังคับให้ใครคิดแบบเดียวกันหมด
พร้อมเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ควรตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ .เพื่อพิจารณาโดยรวม ไม่ใช้แก้เฉพาะ มาตรา 272 ปิดสวิตซ์ และต้องไม่มีการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ใดๆ ทั้งสิ้น