ลูกสาววัย 3 ขวบ เสียชีวิตก่อนวันเกิด 1 วัน หลังป่วยหนัก ญาติร้องขอให้ส่งต่อไปรักษา รพ.ศูนย์ แต่ถูกปฏิเสธ

ลูกสาววัย 3 ขวบ เสียชีวิตก่อนวันเกิด 1 วัน หลังป่วยหนัก ญาติร้องขอให้ส่งต่อไปรักษา รพ.ศูนย์ แต่ถูกปฏิเสธ

View icon 3.5K
วันที่ 21 ก.ค. 2566 | 07.55 น.
ข่าวช่อง7HD
แชร์
ลูกสาววัย 3 ขวบ เสียชีวิตก่อนวันเกิด 1 วัน หลังป่วยหนัก เข้ารักษาที่ รพ.ในอำเภอวังวิเศษ จ.ตรัง 4 วัน ไข้สูง ชัก อาการทรุด ญาติร้องขอให้ส่งต่อไปรักษา รพ.ศูนย์ตรัง ขอครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ถูกปฏิเสธ สุดท้าย เด็กอาการหนัก และเสียชีวิต หลังส่งตัวถึง รพ.ตรัง เพียง 30 นาที พ่อแม่ติดใจขั้นตอนการรักษา และสาเหตุการตาย

วันที่ 20 กรกฎาคม 2566 ที่วัดนาวง ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ให้กับเด็กหญิงวัย 2 ปี 11 เดือน 28 วัน ลูกสาวของ น.ส.อนงค์นาถ อายุ 33 ปี อาชีพข้าราชการครู และ นายบุรินทร์ อายุ 31 ปี อาชีพช่างตัดผม ซึ่งเด็กหญิงวัย 3 ปี เสียชีวิตที่โรงพยาบาลตรัง โดยเบื้องต้นแพทย์แจ้งว่า เสียชีวิตด้วยอาการเชื้อไวรัสลงปอด ปอดแห้ง

โดยเด็กหญิงวัย 3 ปี เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่วันพฤหัสบดี ที่ 13 ก.ค.66 ไปที่คลินิกที่ห้วยยอด และให้ยามากินไม่ดีขึ้น ก็รีบพาไป โรงพยาบาลต่อ โดยที่รพ.แพทย์ได้ทำการเอกซเรย์ ไม่พบความผิดปกติของปอด แต่เมื่อกลับมาบ้านน้องก็ยังคงมีอาการป่วยไข้ยังขึ้นสูง และเริ่มมีอาการชักเกร็งด้วย ทำให้ครอบครัวตัดสินใจนำตัวน้องเข้ารักษาที่ โรงพยาบาลอีกแห่ง ซึ่งนับเป็นโรงพยาบาลที่ 2 ที่เข้ารักษา เพราะอยู่ใกล้บ้านอย่างเร่งด่วน ในวันอาทิตย์ ที่ 16 ก.ค.ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.นี้จำนวน 4 วัน จากนั้นทางรพ.แห่งนี้ ได้ส่งตัวน้องไปที่ รพ.ในตัวมือง จ.ตรัง และเสียชีวิตที่ รพ.ในช่วงค่ำของวันที่ 19 ก.ค.66

โดยบรรยากาศภายในศาลาบำเพ็ญกุศลศพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย และญาติๆ เดินทางมาร่วมพิธีศพ และให้กำลังใจ แม่และพ่อ เด็กหญิงวัย 3 ปี ซึ่งทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกัน 2คน โดยเด็กหญิงวัย 3 ปี เป็นลูกสาวคนโต และยังมีน้องสาววัย 1 ขวบ เด็กทั้ง 2 คน อยู่อาศัยกับพ่อ ย่า และ อา  ส่วนแม่รับราชการครูอยู่ที่จังหวัดสงขลา

ด้าน ย่า และ อา ของเด็กหญิงวัย 3 ปี เล่าว่า น้องเริ่มมีไข้ตั้งแต่วันพฤหัสบดี มีอาการไข้ต่ำ ๆ ต่อมาวันศุกร์ตนได้พาน้องไปหาหมอที่คลินิก ในตัว อ.ห้วยยอด ก็ได้ยามารับประทาน แต่พอตกค่ำของวันเสาร์ปรากฎว่าน้องตัวร้อนขึ้นมาอีก มีไข้สูง ตนจึงพาไปหาหมอที่ รพ.ซึ่ง รพ.ได้เอกซเรย์ แต่ไม่มีความผิดปกติ และให้ยากลับมารับประทานที่บ้าน พอวันอาทิตย์ช่วงบ่ายน้องมีไข้สูงและชัก ตนจึงรีบพาไป รพ.อีกที่ ใน อ.วังวิเศษ เพราะเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้านกว่า เมื่อไปถึงโรงพยาบาล หมอก็ไม่ได้เอกซเรย์ ไม่ได้เจาะเลือดเพื่อตรวจ ไปถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่พยาบาลก็ช่วยกันเช็ดตัวให้น้อง แต่น้องยังไข้สูงตลอดเวลา ตนเองบอกหมอว่า กังวล เพราะไข้สูง ไข้ไม่ลดลงเลย ซึ่งตลอดเวลาน้องมีไข้สูง 39-40 องศา ตั้งแต่คืนแรก จึงขอให้หมอส่งตัวน้องไป รพ.ศูนย์ตรัง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ เขาบอกดูแลได้ เพราะแค่เป็นไข้ตัวร้อน รักษาด้วยการให้กินยาลดไข้ ให้เช็ดตัว (คืนวันที่ 2 ของการอยู่ รพ.ใน อ.วังวิเศษ) ก็ยังคงมีไข้สูงเหมือนเดิม พอตอนเย็นวันนั้นเขาก็ให้ยาต้านเชื้อไวรัส ซึ่งน้องกินยาแล้วก็อ้วกออกมา 2 ครั้ง ตนไม่รู้ว่าติดเชื้อไวรัสอะไร เพราะหมอไม่ได้บอก ตนเช็ดตัวให้หลานตลอดทั้งคืน จนถึง 03.00 น. ตนจะขอให้ส่งตัวน้องไป รพ.ตรัง แต่พยาบาลเขาก็อยู่ในห้องพัก แต่ก็ล็อกประตู ตนจะเรียกขอช่วยก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
 
ตั้งแต่หัวค่ำตนเองก็ขอร้องให้ส่งต่อไปรักษาที่ รพ.ศูนย์ตรัง เขาตอบว่าไม่ได้ เขายังดูแลน้องได้ ไม่ไปส่ง ต่อมาอาของน้อง ก็ร้องขอให้ส่งต่อน้องไปที่ รพ.ตรัง เพราะไข้สูงตลอด ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดตั้งแต่วันแรก แต่ได้คำตอบจากพยาบาลว่าถ้าจะให้ไปส่ง รพ.เอกชน เขาจะไปส่งให้ แต่หากไปส่ง รพ.ตรัง เขาจะไม่ไปส่ง

ซึ่งตั้งแต่วันที่ 2 ที่อยู่ใน รพ.นี้ น้องเริ่มไอ และไอหนักขึ้น ไอตลอดเวลา หลังเป็นผื่นแดงทั้งหลัง เมื่อเราขอให้พยาบาลช่วยเขาก็หงุดหงิดใส่ และบอกว่าน้องตัวร้อน ให้เช็ดตัว และย้อนถามอาที่ไปร้องขอให้ส่งตัวไป รพ.ตรังว่า เป็นใคร เป็นแม่เด็กหรือเปล่า เวลาที่ไปขอให้ส่งตัวไป รพ.ตรัง เขาบอกว่าหมอที่ รพ.ตรัง ไม่รับต่อบ้าง

จนเมื่อวันที่ 19 ก.ค.66 เวลา 10.30 น.ได้มีหมอผู้หญิงอีกคนขึ้นมาตรวจ และส่งน้องไปเอกซเรย์ ตนเองเห็นในฟิล์มเอกซเรย์ ว่าปอดน้องติดเชื้อ ปอดข้างหนึ่งแฟบลง แต่เขาก็ยังไม่ยอมส่งตัวต่อไป รพ.ตรัง ตามที่ร้องขอ ตนเองรอจนถึงตอนเย็น ซึ่งตอนนั้นน้องไม่ไหวแล้ว ไม่มีแรง ออกซิเจนต่ำ ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ แต่เขาไม่ยอมส่งตัวต่อ เพราะให้เหตุผลว่าการเคลื่อนย้ายจะทำให้เกิดวิกฤติได้ และได้ช่วยน้องตั้งแต่เวลา 14.00 น. จนถึง 18.00 น. จึงจะได้ส่งตัวน้องไป รพ.ศูนย์ตรัง แต่พอมาถึงรพ.ตรัง ตอนเวลา 18.30 น. ตนเห็นน้องชักกระตุก 2 ครั้ง ตนเดินตามไปดูในห้องฉุกเฉิน ตนเห็นว่าน้องอาการรวยรินเต็มที่แล้ว แล้วน้องก็แน่นิ่งไปเลย ซึ่งหมอได้ช่วยกันปั๊มหัวใจ แต่ไม่สำเร็จ แล้วเขาก็เดินมาบอกตนว่าน้องเสียชีวิตแล้ว ตอนนั้นตนรู้สึกช็อคมาก เสียใจจนทำอะไรไม่ถูก

ตนเองไม่เข้าใจว่าทำไม รพ.แห่งนี้ ไม่ยอมส่งน้องมา รพ.ตรัง ตั้งแต่แรก ทั้งที่น้องมีไข้สูงอยู่ตลอด เวลาและไม่มีการตรวจวินิจฉัยโรคโดยละเอียด ให้แค่ยาลดไข้ น้ำเกลือ ยาแก้ไอ และมาเอกซเรย์ เอาตอนที่น้องอาการหนักแล้ว ซึ่งมันช้าไปแล้ว ซึ่งรพ.นี้ ได้แจ้งว่าติดเชื้อไวรัส และไม่มียารักษาไวรัสชนิดนั้น แต่ให้กินยาต้านไวรัส และให้รักษาตามอาการ บอกว่ารับมือไหวรักษาได้ แต่พอเมื่อวานกลับมาบอกว่าที่ รพ.แห่งนี้ ไม่มีหมอเด็ก ตนข้องใจว่าทำไมไม่มีหมอเด็ก แล้วทำไมไม่รีบส่งต่อไปที่ รพ.ตรัง มาส่งตัวไปตอนที่น้องอาการทรุดหนักขั้นโคม่าแล้ว

ตนและครอบครัวอยากฟังคำอธิบายจาก รพ.แห่งนี้ ในพื้นที่ อ.วังวิเศษ ว่าทำไมขั้นตอนการรักษา การส่งต่อ จึงล่าช้าไปหมด และอยากได้รับความยุติธรรมจากรพ. และการให้บริการของพยาบาลแย่มาก ตนไปขออะไรก็ไม่ได้ เขาจะแสดงท่าทีรำคาญ หงุดหงิดใส่ตลอด

ทั้งนี้นายบุรินทร์ ได้ไปแจ้งความที่ สภ.วังวิเศษ และ ร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวังวิเศษ ตนเองอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรม เรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดจากบริการสาธารณสุข และให้ทางรพ.แห่งนี้ในพื้นที่ อ.วังวิเศษ ออกมาชี้แจงขั้นตอนการรักษา และสาเหตุการตายของน้องในครั้งนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง