ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้ามืดวานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น รัสเซียได้ระดมยิงขีปนาวุธ 19 ชนิด โจมตีเมืองโอเดสซา ซึ่งเมืองท่าทางตอนใต้ของยูเครน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน บาดเจ็บอีกราว 20 คน ในจำนวนนี้มีเด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 11 ขวบ ถึง 17 ปี รวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ อาคารเกือบ 50 หลัง ได้รับความเสียหาย โดยมีทั้งบ้านเรือนและอะพาร์ตเมนต์ที่อยู่อาศัยของพลเรือน, อนุสรณ์สถานที่มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรม รวมทั้งโบสถ์คริสตจักรออร์ทอดอกซ์แห่งยูเครน (Orthodox Church of Ukraine) ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของยูเครน และถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ด้านยูเนสโกออกมาประณามรัสเซียอย่างรุนแรงต่อการโจมตีแบบไร้ยางอายของกองกำลังรัสเซียที่ทำการโจมตีศูนย์กลางแหล่งมรดกโลกในเมืองโอเดสซา
ขณะที่ รัฐมนตรีกลาโหมของรัสเซียอ้างว่า รายงานว่ารัสเซียโจมตีโบสถ์เป็นรายงานเท็จ และเป้าหมายที่รัสเซียโจมตีอยู่ในระยะปลอดภัยจากที่ตั้งโบสถ์ แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากระบบต่อต้านขีปนาวุธของยูเครนเอง
ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียได้ทำการโจมตีเมืองโอเดสซา และโรงงานส่งออกอาหารของยูเครนอย่างหนัก หลังรัสเซียประกาศถอนตัวจากข้อตกลงส่งออกธัญพืชของยูเครนผ่านทะเลดำ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา