เปิดใจ ชัยธวัช หากต้องเป็นฝ่ายค้านจริงๆ พรรคก้าวไกลก็จะใช้ทุกบทบาทให้เป็นประโยชน์ที่สุด

เปิดใจ ชัยธวัช หากต้องเป็นฝ่ายค้านจริงๆ พรรคก้าวไกลก็จะใช้ทุกบทบาทให้เป็นประโยชน์ที่สุด

View icon 537
วันที่ 24 ก.ค. 2566 | 20.02 น.
ข่าวช่อง7HD
แชร์
เปิดใจ ชัยธวัช หากต้องเป็นฝ่ายค้านจริงๆ พรรคก้าวไกลก็จะใช้ทุกบทบาทให้เป็นประโยชน์ที่สุด ชี้ ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน มีงานทำแน่นอน แต่ถ้าเป็นรัฐบาลโอกาสผลักดันกฎหมายสำเร็จ ก็มีมากกว่า 

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวออนไลน์ 7HD หลังผู้ตรวจการแผ่นดิน มีมติยื่นศาล รธน.วินิจฉัยมติรัฐสภาห้ามเสนอชื่อ "พิธา" ชิงนายกฯรอบ 2 เป็นญัตติซ้ำ ขัด รธน.หรือไม่ และขอให้ศาลสั่งชะลอการประชุมโหวตนายกฯ จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ว่า ตนเองก็ได้แต่ประเมินและมองว่า เมื่อออกมาเป็นลักษณะนี้ คงมีความเป็นไปได้ ที่ศาลรัฐธรรมนูญ อาจจะรับไว้พิจารณาในวันพุธนี้เลย และเนื่องจากว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ขอด้วยว่า ให้ศาลสั่งชะลอการประชุมโหวตนายกฯ จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ซึ่งทำให้หลายฝ่ายเห็นว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะเลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีออกไป แต่ความชัดเจนต้องรอวันพุธ 26 กรกฎาคมนี้ ซึ่งวันพุธ นอกจากจะมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ยังมีวิป 3 ฝ่าย ที่จะประชุมกันด้วย

สำหรับกรณีนี้ จุดยืนตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ จนถึงพรรคก้าวไกล ไม่เห็นด้วยที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจเหนือสภาฯ เพราะเราเห็นว่ารัฐสภา โดยเฉพาะสภาผู้แทนราษฎร มีอำนาจวินิจฉัยตีความการบังคับใช้รัฐธรรมนูญอยู่แล้ว แต่กรณีลักษณะนี้เมื่อมีคนยื่นคำร้องไป ซึ่งทางพรรคก็เห็นว่ามติขัดต่อรัฐธรรมนูญชัดเจน หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า มติรัฐสภาขัดต่อรัฐธรรมนูญ แน่นอนว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ การปลดล็อคเงื่อนไข และจะทำให้ ไม่ว่าจะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ คนไหน ไม่ว่าจะเป็นของพรรคก้าวไกล หรือ พรรคเพื่อไทย ก็จะไม่ต้องกังวลว่าโหวตได้แค่ครั้งเดียว

ส่วนว่าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาว่าสามารถเสนอชื่อซ้ำได้ พรรคก้าวไกลจะทวงสิทธิการจัดตั้งรัฐบาลคืนจากเพื่อไทยหรือไม่นั้น นายชัยธวัช ระบุว่า ณ ขณะนี้ยังไม่ได้เจรจาถึงขั้น เพราะ ณ วันนี้ พรรคก้าวไกลยังยืนอยู่บนฐานที่ส่งไม้ต่อให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เตือน ก้าวไกล-พรรคร่วมฯ อย่าไปยุ่ง หลังมอบ เพื่อไทย หาคะแนนเสียงโหวตนายกฯ จัดตั้งรัฐบาล นั้น นายชัยธวัช ระบุว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ท่านเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว คงไม่เหมาะสมที่จะไปกล่าวอะไรถึงท่าน ส่วนกรณีที่หลายคนสงสัยว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เปลี่ยนไปหรือไม่นั้น ตนเองมองว่า ท่านไม่ได้เปลี่ยนไป เพียงแต่มีสไตล์ลักษณะแบบนี้อยู่แล้ว

ขณะนี้ สังคมสงสัยว่า หลายฝ่ายกำลังกดดันให้ก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน นั้น นายชัยธวัช เผยว่า เรื่องนี้อยากให้ถามประชาชน เพราะประชาชนจะรู้สึกเยอะกว่า เนื่องจากเขาได้เลือกตั้งไปแล้ว และเขาจะรู้สึกว่าถูกหลอกให้ไปเลือกตั้งหรือไม่ มันเป็นคำถามที่ดังขึ้นเรื่อยๆจากประชาชน ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าพรรคการเมือง แต่ละพรรครู้สึกอย่างไร แต่ตอนนี้ประชาชนรู้สึกอย่างไรคือเรื่องใหญ่ แต่หากต้องไปเป็นฝ่ายค้านจริงๆ พรรคก้าวไกลจะใช้ทุกบทบาทให้เป็นประโยชน์ที่สุด พยายามใช้กลไกของผู้แทนราษฎร ใช้กลไกของรัฐสภา ทำอะไรได้ก็ ตนเองมองว่า พรรคก้าวไกลเป็นพรรคการเมืองที่มีวาระชัดเจน และมีกฎหมายชัดเจนว่าจะผลักดันเรื่องอะไรบ้าง ดังนั้น ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนมีงานทำแน่นอน แต่แน่นอนถ้าเป็นรัฐบาล ความเป็นไปได้ที่จะผลักดันให้มันสำเร็จ ก็มีโอกาสมากกว่า