สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ช่วงนี้ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใน ทุก(ข์)ชีวิต กับคุณปอย ภานุรัจน์ ศนีบุตร
ลงพื้นที่ หมู่1 ตำบลวัดตูม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบกับครอบครัวหนึ่งที่ต้องการความช่วยเหลือ ยังคงได้รับผลกระทบจากโควิด 19 จนถึงเวลานี้ เพราะตกงานไร้เงิน ต้องมาอาศัยบ้านญาติอยู่ และต้องดูแลคนพิการ ถึง 2 คน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับครอบครัวนี้ นอกจากฐานะที่ยากไร้ ยังมีผู้ป่วยวัยชราต้องดูแลใกล้ชิด น้องชายที่พิการทางสมอง นางสาวอรุณแลฟ้า แซ่เล้า อายุ 27 ปี เล่าด้วยสีหน้าอมทุกข์ ชีวิตของตนเองสุดแสนลำบาก พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ตนเองอายุ 8 เดือน โดยนำมาทิ้งให้กับ นางจินดา จันทราภูมิ อายุ 62 ปี ผู้เป็นย่าเลี้ยง กระทั่งเรียนจบ ม.3 เติบโต มีครอบครัว
ชีวิตเหมือนจะสุขสบาย แต่ก็ต้องมาพบกับ โชคชะตาที่โหดร้าย เมื่อผู้เป็นย่า มีโรครุมเร้า เบาหวานความดัน เส้นเลือดในสมองตีบ เมื่อปี 2558 ขาดการรักษานาน 4 ปี จนทำให้อาการทรุดจนเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก แขนขาอ่อนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ตนเองพยายามสู้ทุกทางเพื่อหาเงินมาดูแลบุพการี สู้ชีวิตออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อไปทำงานรับจ้างขายของภายในห้างสรรพสินค้าเลิกงาน 19:00 น. ก็ไปรับจ้างต่อที่ร้านอาหาร เพื่อหารายได้พิเศษเพิ่ม เพื่อดูแลครอบครัวกว่าจะกลับเข้าบ้านก็ประมาณ 02.00 น. ทำแบบนี้ทุกวัน
ส่วนสามีซึ่งมีอาชีพ รับจ้างขับขี่ เป็น Rider ส่งอาหาร เสียสละคอยมาดูย่าซึ่งป่วย ลูกชายก็กำลังเข้าสู่วัยเรียน และยังต้องคอยส่งเสียแม่ที่ป่วยติดเตียงและน้องชายอายุ 18 ปี ซึ่งพิการทางสมองตั้งแต่เกิด มีมากให้มากมีน้อยให้น้อย จนกระทั่งมาเจอยุคโควิด ยิ่งทำให้ชีวิตทุกคนเปลี่ยน ตกชะตากรรมลำบากตกงาน แต่ทุกคนก็ไม่ย่อท้อนำเงินในส่วนที่มีอยู่มาลงทุนขายของแต่ก็ไปไม่รอด ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟแทบจะไม่มีจ่าย
จนกระทั่ง สามีมาสูญเสียแม่ด้วยโรคประจำตัว ไปเมื่อช่วงประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2566 ทำให้น้องชายขาดคนดูแลประกอบกับครอบครัวตนเองถึงทางตันเนื่องจากการพักอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ มีค่าเช่าบ้านและต้นทุนของชีวิตสูงจึงต้องหอบเสื่อผืนหมอนใบ กลับมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านญาติของสามีชั่วคราว ซึ่งก็ไม่รู้จะได้พักอาศัยอยู่ได้นานเท่าไร เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวติดจำนองอยู่และไม่รู้ว่าจะขาดจำนองเมื่อไหร่ ส่วนตัวบ้านที่พักอยู่ก็ชำรุดทรุดโทรม ปลวกกิน ไม่รู้จะพังลงมาวันใด ห้องน้ำก็เก่าชำรุดทรุดโทรม
เพลงและสามีก็พยายามจะออกไปหางานทำ แต่ด้วยที่ตนเองจบเพียงแค่ ม.3 ก็จะหางานทำยากก็ต้องหางานรับจ้างทั่วไปซึ่ง มีรายได้น้อยไม่พอกับรายจ่าย แต่ก็ยังโชคดีเวลาพวกตนออกไปทำงาน น้องชายซึ่งพิการทางสมอง ก็ยังจะพอช่วยเหลือตัวเองได้ และมีหน้าที่คอยทำอาหารให้ย่าทานได้ ส่วนน้องชายวัย 10 ขวบเมื่อเลิกเรียนก็จะคอยดูแลย่าโดยการเช็ดตัวและพาเข้าห้องน้ำได้
แสดงให้เห็นว่าทุกชีวิตในครอบครัวนี้ต่างต้องดิ้นรนไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ หรือเด็กในวัยเรียนก็ตาม ชีวิตไม่สิ้น ก็ดิ้นกันไป แต่ ณ วันนี้แทบดิ้นไปทำอะไรไม่ได้ เพราะไร้กำลังโดยเฉพาะด้านทุนทรัพย์ น้ำใจยิ่งให้ยิ่งได้