เช้าข่าว 7 สี - กัน จอมพลัง พาบิดาของชายอายุ 22 ปี ไปติดตามความคืบหน้าคดีกับตำรวจ หลังถูกกลุ่มเพื่อนรุมทำร้ายร่างกายจนอาการโคม่า แต่คดีกลับเงียบหาย
นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พาบิดาของ นายแชมป์ อายุ 22 ปี ที่ถูกกลุ่มเพื่อนรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส อาการโคม่า ไปติดตามความคืบหน้าคดีที่ สน.มักกะสัน
บิดาผู้บาดเจ็บเล่าให้ฟังว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อนที่ร่วมกันทำร้ายร่างกาย มีด้วยกัน 3 คน คือ นายเต้ อายุ 18 ปี นางสาวนิว อายุ 15 ปี และนักมวยอีกคนที่ถูกชักชวนมาร่วมก่อเหตุ โดยคนที่ทำร้ายและลูกชายเป็นเพื่อนกันมานั่งเล่นที่บ้านเป็นประจำ วันเกิดเหตุช่วงประมาณ 23.00 น. ทราบว่าลูกถูกรุมทำร้าย มีบาดแผลฉกรรจ์ทั้งใบหน้าและตามร่างกาย แถมยังใช้มีดกรีดที่ขาด้วย ขณะที่ถูกรุมทำร้ายมีการถ่ายคลิปวิดีโอนำไปลงโซเชียลด้วย อาการลูกชายปอดฉีก 2 ข้าง หายใจเองไม่ได้ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลฯ
ส่วนสาเหตุเชื่อว่า มาจากการที่ลูกชายขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุไปประสบอุบัติเหตุได้รับความเสียหาย แต่ตกลงเรื่องค่าเสียหายไม่ได้
ขณะที่ทางตำรวจระบุว่า ได้ศาลออกหมายจับนายเต้ ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า และพกพาอาวุธมีด ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดที่พื้นหน้าบ้าน และท่อนเหล็กที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งเพื่อนบ้านบอกว่า วันที่เกิดเหตุไม่อยู่บ้านจึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ที่ผ่านมาพบว่า นายเต้ และ นางสาวนิว มาอาศัยบ้านร่วมกับนายแชมป์ที่ถูกทำร้าย และมีกลุ่มวัยรุ่นทยอยเข้าออกบ้านไม่ขาดสาย แต่ไม่รู้ว่าเข้าไปทำอะไรกัน
ทีมข่าวยังได้ไปที่ค่ายมวย ส.พูลสวัสดิ์ เพื่อตามหานักมวยที่ถูกพาดพิงถึงว่าร่วมทำร้าย โดย นายพัทรพล หรือ ฉัตรพลอย ส.พูลสวัสดิ์ ยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ วันเกิดเหตุ ตอน 03.00 น. นายเต้ส่งข้อความและคลิปวิดีโอมาให้ดู พอเปิดดูก็ตกใจ เพราะมันค่อนข้างรุนแรง จึงส่งข้อความกลับไปว่าให้ไปมอบตัว ส่วนสาเหตุ นายเต้อ้างว่าผู้บาดเจ็บไปแอบถ่ายแฟนสาวกำลังอาบน้ำ จึงเกิดโมโห
ล่าสุด หลังจากที่มีการร้องเรียนผ่านไปได้เพียง 7 ชั่วโมง พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะดูแลงานสืบสวน เปิดเผยว่า ได้ให้ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่จนสามารถตามรอยไปจับกุม นายเต้ ผู้ก่อเหตุ ไว้ได้แล้ว ก่อนจะนำตัวส่ง สน.มักกะสัน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามขั้นตอน
เบื้องต้น เจ้าตัวให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุดังกล่าวจริง ที่ทำไปเพราะโมโหที่ผู้เสียหายนำรถจักรยานยนต์ไปขี่ และเกิดอุบัติเหตุจนรถเสียหาย และบ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่ายค่าเสียหาย เมื่อถึงขั้นตอนการเจรจาก็ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงรู้สึกโมโหและไปก่อเหตุ
นอกจากนี้ พลตำรวจตรี นพศิลป์ ยืนยันว่า เรื่องนี้ตนเองไม่ได้ปกป้องใครหากใครกระทำความผิดก็จะดำเนินคดีทันทีไม่ละเว้น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม
