เช้าข่าว 7 สี - ที่จังหวัดชัยนาท เกิดเรื่องพิพาทระหว่างครูคนหนึ่งกับกลุ่มผู้ปกครอง หลังคุณครูพานักเรียนกว่า 10 คน ขึ้นโรงพัก เพื่อหวังดำเนินคดีตามกฎหมาย สาเหตุเพราะไม่พอใจที่นักเรียนกลุ่มนี้นำเงินจำนวน 9,000 บาท ที่คุณครูทำหล่นหายไปใช้จ่ายส่วนตัว จึงถูกครูข่มขู่-ทำโทษ
ประเด็นนี้ถูกเปิดเผยโดยผู้ปกครองของนักเรียนหญิง ชั้นป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท ผู้ปกครองเล่าว่า ครูพาหลานสาวพร้อมกับกลุ่มเพื่อนอีกกว่า 10 คน ไปที่สถานีตำรวจ เพื่อดำเนินคดีฐานลักทรัพย์ โดยไม่แจ้งเรื่องให้ผู้ปกครองทราบ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมาคุณครูคู่กรณีได้ทำเงินจำนวน 9,000 บาท หล่นที่โรงเรียน ต่อมาหลานสาวพบเจอเงินทั้งหมด แล้วนำเงินไปซื้อขนม-ซื้อข้าว เลี้ยงเพื่อน ๆ แจกเงินส่วนหนึ่งให้กับเพื่อนสนิทรวมถึงนำเงิน 1,000 บาท ไปร่วมทำบุญถวายเทียนพรรษาของโรงเรียน กระทั่งครูคู่กรณีทราบเรื่องจึงต่อว่าเด็ก ๆ และบังคับให้กลุ่มผู้ปกครอง หาเงินมาคืนจนกว่าจะครบจำนวน
น้าสาวของเด็กที่เก็บเงินได้ ยอมรับว่าหลานสาวผิดที่ทำแบบนี้ แต่ก็เพราะเด็กไม่รู้ว่าเงินเป็นของใคร แล้วจะต้องทำอย่างไร
หลังเป็นเรื่อง ครูคู่กรณีห้ามหลานสาวกินข้าวกลางวัน และพยายามจะใช้รองเท้าตบหน้าเด็กด้วย ยังดีมีครูอีกคนมาห้ามไว้ทัน
จากการพูดคุย คุณครูประสงค์ให้ครอบครัวของเด็กหญิงที่เก็บเงินได้นำเงินมาจำนวน 6,300 บาท มาชดใช้ ส่วนคนอื่น ๆ ก็ให้ช่วยกันจ่ายส่วนที่เหลือจนครบ 9,000 บาท แต่หากปฏิเสธนำเงินมาคืน จะแจ้งความจับทั้งเด็กและผู้ปกครอง พร้อมพูดข่มขู่ ถ้าไม่อยากติดคุกก็เตรียมหาเงินหลักแสนบาทมาประกันตัวได้เลย เธอจึงต้องไปกู้หนี้นอกระบบ
สำหรับยอดเงิน 6,000 บาทที่กู้ยืมมา มีดอกเบี้ยรายวัน วันละ 120 บาท จนกว่าจะปิดเงินต้น เบื้องต้นคุณครูคนนี้ได้เงินจากผู้ปกครองไปแล้วหลายคน แต่ไม่มีการแจ้งถึงยอดเงินรวม จึงอยากให้มีการชี้แจงรายละเอียด
อีกประเด็นคือ ครูคนนี้เคยถ่ายรูปบ้านของเธอ แล้วนำชื่อลูกของเธอ ไปยื่นขอทุนการศึกษา โดยมีชื่อเด็กได้รับทุน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนตอนนี้ศึกษาอยู่ชั้น ป.3 แล้ว แต่ลูกก็ยังไม่เคยได้รับเงินแม้แต่สตางค์แดงเดียว จึงคาใจถึงพฤติกรรมส่อแววทุจริต
เพื่อความเป็นธรรม ทีมข่าวได้พยายามติดต่อครูคู่กรณี ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่ได้รับข้อมูลใด ๆ ขณะที่ผู้บริหารโรงเรียน ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้เช่นกัน