ส่งนักพนันฟ้องศาล หลังฝ่ายปกครองบุกจับบ่อนกลางเมืองเชียงใหม่

ห้องข่าวภาคเที่ยง - เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองพิเศษ บุกจับบ่อนใหญ่กลางเมืองเชียงใหม่ ได้นักพนันกว่า 100 คน ด้านตำรวจเชียงใหม่สั่งเด้ง 5 เสือ สภ.ช้างเผือก เจ้าของพื้นที่ พร้อมขยายผลจับนายทุนใหญ่

นี่เป็นภาพขณะที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองทั้งจากส่วนกลางและจังหวัดเชียงใหม่ บุกเข้าจับกุมบ่อนการพนัน "89 CLUB Casino" ในย่านสันติธรรม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (9 ส.ค.) จังหวะเจ้าหน้าที่เข้าไป นักพนันกำลังเล่นการพนันอย่างเมามัน พอเห็นเจ้าหน้าที่ก็พยายามจะวิ่งหนี ซึ่งทางเข้าออกมีเพียงทางเดียว บางส่วนก็วิ่งสวนออกมาได้ แต่หลายคนหนีไม่ทัน จึงถูกจับกุมได้ทั้งหมด 104 คน

ในจำนวนนี้เป็นเจ้ามือ วงเสือมังกร 5 คน ไฮโล 10 คน และ บาการา 4 คน รวมถึง การ์ดเฝ้าหน้าประตูอีก 2 คน พร้อมยึดอุปกรณ์การเล่นพนันได้จำนวนมาก ก่อนจะคุมตัวทั้งหมดไปทำบันทึกการจับกุมที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ และนัดผู้ต้องหาทั้งหมดมาพบพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก เพื่อส่งดำเนินคดีศาลจังหวัดเชียงใหม่ เช้าวันนี้ (10 ส.ค.)

การจับกุมในครั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า บ่อนแห่งนี้เปิดให้เล่นการพนันมานาน นักพนักหมุนเวียนเข้าไปเล่นในแต่ละวันไม่ต่ำกว่าพันคน มีเงินหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท อีกทั้งยังพบว่ามีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา มีคนคุมบ่อน มีกล้องวงจรปิด 11 ตัว รวมถึงอาหารคอยให้บริการนักพนัน และมีนายทุน ซึ่งเป็นคนกรุงเทพมหานคร อยู่เบื้องหลัง

ล่าสุดผู้สื่อข่าวเข้าไปดูที่บ่อนในช่วงเช้า พบว่า ประตูปิดเงียบและน่าจะไม่มีผู้อยู่ภายใน เพราะว่าบ่อนแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านชุมชน มีการสร้างรั้วสูงปิดบังสายตา ทำให้ผู้ที่อยู่ภายนอกไม่สามารถมองเห็นสถานที่ภายในได้

หลังจับกุมไม่นาน พลตำรวจตรี ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ ได้มีคำสั่งย้าย 5 นายตำรวจ สภ.ช้างเผือก ตั้งแต่ผู้กำกับการไปจนถึงระดับสารวัตร มาประจำที่ ศปก. ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ พร้อมทั้งเร่งสืบสวนขยายผล จับกุมนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง ลักลอบเปิดบ่อนแห่งนี้

ด้านพลตำรวจโท ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า ได้มีการสั่งกำชับในทุกสถานีตำรวจในพื้นที่ เข้มงวดกวดขัน หากพบว่ามีการปล่อยปละละเลย จะมีการลงโทษทางวินัยอย่างแน่นอน