เยอรมนีผ่านกฎหมายกัญชา อายุ 18 ปี ครอบครองได้ 25 กรัม ปลูกบ้านละ 3 ต้น

เยอรมนีผ่านกฎหมายกัญชา อายุ 18 ปี ครอบครองได้ 25 กรัม ปลูกบ้านละ 3 ต้น

View icon 207
วันที่ 17 ส.ค. 2566 | 16.28 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กัญชาถูกกฎหมาย เยอรมนีผ่านกฎหมายให้ผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ครอบครองกัญชาเพื่อใช้เองได้ไม่เกิน 25 กรัม ปลูกในบ้านได้ 3 ต้น “หมอเอก” คณะทำงานด้านสาธารณสุข ภูมิใจไทย ชี้ไทยเสียโอกาสเป็นผู้นำ เพราะเกมการเมือง

กัญชาถูกกฎหมาย วันนี้ (17 ส.ค.66) นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ คณะทำงานด้านสาธารณสุข พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงสถานการณ์กัญชา ล่าสุด รัฐสภาประเทศเยอรมนี ผ่านการรับรองร่างกฎหมายกัญชา เป็นประเทศในสหภาพยุโรปที่มีการอนุญาตให้ผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปครอบครองกัญชาเพื่อใช้เองได้ไม่เกิน 25 กรัม และปลูกในบ้านได้คนละ 3 ต้น รวมถึงมีกลุ่ม Cannabis club ที่น่าจะคล้ายๆ วิสาหกิจชุมชนของเรา จำหน่าย จ่าย แจก กัญชาให้กับสมาชิกได้ 

เยอรมนีซึ่งเป็นผู้นำประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป อาจสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องไปสู่ประเทศอื่นต่อไป นี่คือความเปลี่ยนแปลงที่โลกเดินมาสู่เส้นทาง "กัญชาถูกกฎหมาย" หรือ legalization ซึ่งประเทศไทยเราได้เริ่มต้นมาก่อน แต่ต้องสะดุดหยุดลงด้วยประเด็นทางการเมือง มหาวิทยาลัยในไทย ทำวิจัยเรื่องคัดแยกสายพันธุ์ ปรับแต่งสายพันธุ์กัญชา จนเชี่ยวชาญ มีหน่วยงานที่มีเครื่องมือตรวจสารประกอบในกัญชาแบบละเอียด ในระดับชั้นนำของเอเชีย มีเกษตรกรทีเริ่มเรียนรู้การเพาะปลูก ดูแล เก็บเกี่ยวกัญชาที่มีคุณภาพสูง ในวันนี้เริ่มมีโอกาสของตลาดในต่างประเทศเพิ่มขึ้น

ข้อความตอนหนึ่ง นพ.เอกภพ ระบุด้วยว่า ที่ผ่านมา มีการเสนอร่างกฎหมาย พ.ร.บ.กัญชา-กัญชง เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรจนผ่านในขั้นตอนรับหลักการ นำไปพิจารณารายมาตราโดยกรรมาธิการที่มาจากตัวแทนของทุกพรรคการเมือง แต่เมื่อกฎหมายที่ผ่านกรรมาธิการมาแล้วกลับเข้ามาเพื่อลงมติรายมาตรา กลับถูกเกมการเมืองเตะถ่วงจนพิจารณาไม่เสร็จทันก่อนยุบสภา กฎหมายกัญชาของไทยจึงยังค้างอยู่ในระบบ รอให้รัฐบาลใหม่ยกขึ้นมานำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาอีกครั้งซึ่งมีกรอบเวลาที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนกฎหมายที่ทำมาแล้วจะตกไป จนต้องมาเริ่มกระบวนการกันใหม่

“จากที่เราเริ่มต้นมาก่อน เป็นผู้นำในระดับโลก แต่กำลังจะกลายเป็นผู้ตามอย่างน่าเสียดาย ซึ่งในตอนนี้เราก็ยังทันที่จะตั้งต้นเดินหน้าต่อจากพื้นฐานที่มีและปิดช่องว่างในทุกทางที่มีความกังวลห่วงใย การนำของใต้ดินให้ขึ้นมาอยู่บนดิน จะควบคุมได้ง่ายและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยรวมมากกว่า” หมอเอกระบุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง