ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คืนวันที่ 21 ส.ค. 66 เวลา 22.00 น. ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ใน สภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ก็ต้องพากันแตกตื่นตกใจ เมื่อมีชายคนหนึ่งหิ้วงูเหลือมขนาดใหญ่ ยาวกว่า 3 เมตร บุกมาแจ้งความเอาผิดกับงูตัวดังกล่าว หลังจากที่ต้องต่อสู้และถูกงูตัวนี้กัดที่ข้อเท้า ทางตำรวจต้องรีบแจ้งอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูบางบ่อให้รีบมาที่ สภ.บางบ่อ เป็นการด่วน เพื่อมาช่วยกันจับงูและช่วยกันปฐมพยาบาลให้กับชายคนดังกล่าว เนื่องจากมีบาดแผลจากการถูกงูกัดที่ข้อเท้าข้างขวา
เมื่อเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูมาถึง ก็ต้องแบ่งกำลังกันส่วนหนึ่งเอาอุปกรณ์ไปจับงูเหลือมใส่กระสอบ เพื่อนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ อีกส่วนต้องช่วยกันทำแผลให้กับชายคนดังกล่าว และพาตัวส่งโรงพยาบาลบางบ่อ เพื่อให้แพทย์ตรวจรักษา ทราบชื่อต่อมา คือ นายสารยุทธ มาลาจันทร์ อายุ 68 ปี
จากการสอบถาม นายสารยุทธ บอกว่า ตนเองเป็น รปภ.ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ใน อ.บางบ่อ ซึ่งมีห้องพักอยู่รั้วของโรงงาน โดยตนได้เลี้ยงไก่ไว้หลังห้องพัก วันนี้หลังเลิกงานมาก็อาบน้ำ กินข้าว แล้วเข้านอนพักผ่อนตามปกติ ระหว่างที่กำลังนอนพักในห้องอยู่คนเดียว ก็รู้สึกว่าเจ็บปวดที่ข้อเท้า คล้ายกับมีอะไรมากัด พอลืมตาพลิกตัวมองยังไม่ทันจะลุกจากที่นอน ปรากฎว่างูเหลือมตัวนี้โอบรัดคอรัดลำตัวของตนเองทันที จนต้องต่อสู้กับเจ้างูตัวนี้ พยามร้องตะโกนให้คนด้านนอกช่วย แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน แถมงูยิ่งรัดแน่นมากขึ้น พยามแกะงูออกจากตัวก็สู้แรงงูไม่ได้ ตัดสินใจคว้าหางงูมากัดเต็มปากแบบสุดแรง เพื่อหวังให้งูเจ็บแล้วคลายการรัด ซึ่งก็ได้ผล พอกัดหางจนงูเจ็บจึงคลายรัดตัวเองออก และพยามเลื้อยหนี จึงจับหูงูบีบไว้ แล้วหิ้วขึ้นรถจักรยานยนต์มาแจ้งความกับตำรวจ ในข้อหาที่มารัดคอและกัดตัวเอง เพราะเกือบจะสิ้นใจกว่าจะสู้งูสำเร็จ
ด้าน นายสมชาย สีเหรัญ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดบางบ่อ 11 ฝากเตือนประชาชนทั่วไปว่า หากไม่มีความชำนาญ หรืออุปกรณ์ในการจับงู หากพบเห็นงูเข้าที่พักอาศัยหรือโรงงาน ขอให้รีบแจ้งกู้ภัยหรือเทศบาลหรือ อบต.ในพื้นที่ เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญไปจับงูปล่อยคืนสู่ธรรมชาติได้ ไม่แนะนำให้จับด้วยตนเอง เพราะจะเป็นอันตรายต่อคนจับได้ ไม่ว่าจะเป็นงูมีพิษหรือไม่มีพิษก็ตาม กรณีนี้ถือว่ายังโชคดีที่คุณลุงมีสติและสามารถจัดการกับงูตัวนี้ได้
