หลายพื้นที่ในฝรั่งเศส กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนเข้าปกคลุม อุณหภูมิพุ่งทะลุ 40 องศาเซลเซียส ขณะที่อิตาลี เตรียมรับคลื่นความร้อนระลอกใหม่ ที่พัดเข้าปกคลุมในหลายพื้นที่ ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ เมื่อวานนี้ หลายพื้นที่ของฝรั่งเศส ต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนเข้าปกคลุม ทำให้อุณหภูมิทางตอนใต้ของประเทศสูงถึง 42 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยตามฤดูกาลราว 10 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิในกรุงปารีส พุ่งสูงถึง 31 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าอุณหภูมิปกติในช่วงวันสุดท้ายของเดือนสิงหาคมถึง 5 องศาเซลเซียส
ทางการฝรั่งเศส ได้ยกระดับเตือนภัยเป็นระดับสีแดง ซึ่งคาดว่าอุณหภูมิจะพุ่งขึ้นใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในวันนี้
ส่วนที่ อิตาลี ทางการได้ยกระดับเตือนภัยเป็นสีแดง ใน 12 เมือง ซึ่งรวมถึงกรุงโรม และเมืองมิลาน ตั้งแต่เมื่อวานนี้ และอีก 5 เมือง ที่จะเริ่มในวันพุธ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว เตรียมรับมือกับคลื่นความร้อนระลอกใหม่ที่มีชื่อว่า เนโร (Nero) ซึ่งเป็นคลื่นความร้อนระลอก 3 ที่ปกคลุมประเทศ
ภายในเวลาเพียง 2 เดือน ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นถึง 38 องศาเซลเซียส ติดต่อกันอย่างน้อย 5 วันในหลายภูมิภาคของอิตาลี ก่อนที่จะผ่อนคลายลงในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงในพื้นที่
ทั้งนี้ อิตาลีเป็นประเทศหนึ่งในยุโรป ที่เผชิญกับสภาพอากาศสุดขั้ว นับตั้งแต่คลื่นความร้อนเข้าปกคลุมยุโรปตอนใต้ เมื่อเดือนที่แล้ว โดยอุณหภูมิที่ร้อนจัดส่งผลให้เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า และการเสียชีวิต