ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ คุณเกรียงไกร รัตนา ขยายผลตรวจสอบปมพิพาทที่ดินริมแม่น้ำปิง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ชาวบ้านร้องเรียนว่านายทุนล้อมรั้วบุกรุกที่สาธารณะ พบข้อมูลและข้อสงสัยเกี่ยวกับการถือครองกรรมสิทธิ์และการปฏิบัติหน้าที่
รั้วลวดหนามที่ถูกปักล้อมลงบนที่ดินริมแม่น้ำปิง หมู่ที่ 4 ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งชาวบ้านยืนยันว่าเป็นที่ดินสาธารณะ ใช้ทำกิจกรรมในชุมชน และเป็นสถานที่เลี้ยงวัว-เลี้ยงควาย มาโดยตลอด แต่กลับมีผู้แสดงตัวอ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่านายทุน เป็นชนวนเหตุสำคัญที่ทำให้พวกเขา ออกมาร้องเรียนทีมข่าว ให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากที่ผ่านมา ร้องไปหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ไม่ได้ความชัดเจน
แผนที่ ที่ขึ้นอยู่หน้าจอขณะนี้เป็นหนึ่งในเอกสาร ที่ผู้อำนวยการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเชียงใหม่ หยิบขึ้นมาอธิบาย ระบุว่าเป็นเอกสารที่เจ้าของที่ดิน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่านายทุนนำมาแสดง โดยอ้างว่าเป็นอาณาเขตที่ดิน 15 ไร่ แต่เพราะแม่น้ำปิงเปลี่ยนทิศ ที่ดินจึงถูกตัดผ่ากลาง และเป็นเหตุทำให้ที่ดิน 3 ไร่ ต้องไปโผล่อยู่อีกฝั่งแม่น้ำ ซึ่งได้รับการพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่กรมที่ดินแล้ว แต่เป็นข้อมูลที่สวนทางกับชาวบ้าน ซึ่งยืนยันว่าเป็นที่ดินสาธารณะ
ตามข้อกฎหมาย หากที่ดินผืนดังกล่าวนี้เป็นที่สาธารณะจริง แน่นอนว่าคงไม่ใครสามารถถือกรรมสิทธิ์ครอบครองไปเป็นประโยชน์ส่วนตนได้ กรณีนี้จึงเกิดเป็นข้อสงสัยและคำถามว่า การออกเอกสารสิทธิ์ดังกล่าวเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
คอลัมน์หมายเลข 7 จึงสอบถามกับสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาแม่แตง ในฐานะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชี้แจงว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบเขตรังวัดที่ดิน ซึ่งผู้ที่มายืนให้สอบเขต เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน
ขั้นตอนขณะนี้ ต้องตรวจสอบหาแนวที่ดินด้านข้างโดยรอบที่มีโฉนดชัดเจนก่อน ถึงจะหาแนวที่ดินที่มีปัญหาได้ แต่ขณะนี้ติดปัญหาที่ดินเป็นป่ารกทึบ ต้องให้เจ้าของที่ดินแพ่วถางจนโล่งเสียก่อน
เมื่อข้อเท็จจริงที่ชาวบ้านร้องขอให้มีการพิสูจน์มาเนิ่นนาน แต่กลับไม่มีความชัดเจน อีกทั้งยังเบี้ยวการเข้าไปตรวจสอบแนวเขตที่ดินใหม่ตามที่ได้นัดหมาย โดยอ้างว่าที่ดินมีหญ้าสูง และเป็นป่ารกทึบ ต้องให้เจ้าของที่ดินแพ้วถางให้เสร็จก่อน
ทำให้เกิดคำถามว่าเจ้าหน้าที่เพิกเฉยหรือประวิงเวลาเพื่อเอื้อประโยชน์โดยมิชอบหรือไม่ และด้วยเหตุนี้ ทำให้ชาวบ้านยื่นร้องศาลปกครองเชียงใหม่ กับ เทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา, สำนักงานกรมที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาอำเภอแม่แตง และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สำนักงานเชียงใหม่
โดยมองว่าการละเว้น เพิกเฉย ในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ ซึ่งนอกจากจะกระทบกับชาวบ้านแล้ว ยังอาจส่งผลทำให้รัฐเกิดความเสียหายในระยะยาว อีกทั้งยังขอให้มีการพิจารณาคุ้มครองที่ดินชั่วคราว โดยขอให้มีคำสั่งให้รื้อถอนรั้วที่นายทุนได้ล้อมเอาไว้ออกไปก่อน