ร้านดังขออภัย ดรามาจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ปังชา

View icon 122
วันที่ 30 ส.ค. 2566 | 16.42 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ร้านดังแจงดราม่า ประกาศจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า "ปังชา" จนทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน ขณะที่เจ้าของร้านปังชา ที่เชียงราย ที่ถูกเรียกค่าเสียหาย 102 ล้าน เครียดจัด ผวา ล้มละลาย และถึงขึ้นอาจจะต้องหย่าภรรยา

ร้านดังขออภัย ดรามาจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ปังชา
กรณีผู้คนในโลกออนไลน์ออกมาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ หลังจากร้านดังโพสต์ข้อความระบุว่า ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า "ปังชา" แล้วพร้อมสงวนสิทธิ์ห้ามลอกเลียนแบบ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข และสงวนสิทธิ์ห้ามนำชื่อแบรนด์ปังชา Pang Cha ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ไปใช้เป็นชื่อร้านหรือใช้เป็นชื่อสินค้าเพื่อจำหน่าย

หลังโพสต์นี้ถูกแชร์ออกไป มีผู้คนออกมาแสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกันว่า ทางร้านมีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า, สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์, จดแจ้งลิขสิทธิ์จริง แต่จะไปห้ามใครทำ บิงซู หรือ น้ำแข็งไสใส่ชาไทย ไม่ได้

ล่าสุด ร้านดังชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊ก Lukkaithong - ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant ระบุข้อความ ขออภัยที่มีการสื่อสาร และทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทางร้านน้อมรับทุกคำติชม คำแนะนำ และจะปรับปรุง พัฒนา ทั้งในการสื่อสาร การบริการสินค้า ต่อไป

ขณะที่ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยในกรณีที่เกิดขึ้นนั้น น้ำแข็งไสราดชาไทยมีขายมานานแล้ว จึงไม่มีใครสามารถจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร แล้วเป็นสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในเมนูนี้ได้

สรุปได้ว่า ทุกร้านยังคงสามารถขายปังชา หรือน้ำแข็งไสราดชาไทย ได้ แต่ห้ามใช้ลวดลายหรือรูปแบบภาชนะที่ร้านอาหารดังกล่าวจดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ไว้เท่านั้นเอง นอกจากนี้ทุกคนยังสามารถใช้คำว่า "ปังชา" กับเมนูน้ำแข็งไสราดชาไทยได้ แต่ไม่ควรใช้รูปแบบฟอนต์ตัวหนังสือที่ทำให้นึกถึงแบรนด์อื่น ๆ

เจ้าของร้าน ปังชา เครียด ผวาล้มละลาย จ.เชียงราย
ที่จังหวัดเชียงราย ทีมข่าวไปคุยกับ นายวีระชาติ ไอยรากาญจนาศักดิ์ เจ้าของร้านขายขนมปังปิ้ง-ชา และเครื่องดื่ม ที่โดนร้านดัง เรียกค่าเสียหาย 102 ล้านบาท

นายวีระชาติ บอกว่า วันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้รับโนติสจากสำนักงานทนายความว่า ร้านตนละเมิดเครื่องหมายทางการค้าของบริษัทแห่งหนึ่ง เรียกค่าเสียหาย 102 ล้านบาท หากไม่เปลี่ยนชื่อร้านภายใน 7 วัน จะถูกปรับอีกวันละ 10,000 บาท ด้วยความตกใจ จึงได้ไปเปลี่ยนชื่อร้านเพียงร้านเดียว อีกหนึ่งร้านยังไม่ได้เปลี่ยน เนื่องจากยังไม่เข้าใจในเรื่องข้อกฎหมายว่าคำว่า "ปังชา" ละเมิดเครื่องหมายการค้าหรือไม่

นายวีระชาติ ยังกล่าวอีกว่า เปิดร้านมาตั้งแต่ปี 2564 ใช้ชื่อ "ปังชา" มาตลอด ยืนยันไม่มีเจตนารมณ์ไปลอกเลียนแบบใคร อีกทั้งที่ร้านก็ไม่ได้ขายน้ำแข็งใส หลังจากได้รับหนังสือโนติส ทำให้เครียดมาก นอนไม่หลับมาเป็นเดือน ได้แต่สงสัยว่าผิดอะไร คิดมากไปถึงว่าคงต้องล้มละลาย หรือแม้กระทั่งจะต้องไปหย่ากับภรรยา เพราะไม่อยากให้ครอบครัวมารับผลกระทบไปด้วย

ร้านที่หาดใหญ่โดนเรียกค่าเสียหาย 7 แสนบาท จ.สงขลา
ที่ร้านทางช้างเผือก อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นอีกร้านที่มีเอกสารส่งไปถึงให้ยุติการละเมิดเครื่องหมายการค้าและเรียกค่าเสียหาย 700,000 บาท

นางสาวปัณณ์ปรุฬห์ กาญจนโสรัตน์ อายุ 30 ปี เจ้าของร้าน บอกว่า เปิดร้านวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา พอมาวันที่ 26 สิงหาคม ก็มีเอกสารมาที่ร้าน ระบุว่าร้านตนละเมิดเครื่องหมายการค้า ทั้งที่เมนูปังชาของที่ร้าน เป็นขนมปังราดสังขยาชาไทย ไม่เหมือนกับเมนูของร้านดัง นางสาวปัณณ์ปรุฬห์ บอกด้วยว่า ตั้งใจเปิดร้านทำมาหากิน ไม่มีเจตนาไปลอกเลียนแบบของใคร หลายร้านก็ใช้ชื่อนี้กันมานาน ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร

ซึ่งเจ้าของร้านบอกด้วยว่า เอกสารที่ส่งมาที่ร้าน ระบุถึงรูปภาพหน้าเพจ และป้ายไฟของร้าน ที่มีการติดสติ๊กเกอร์ด้วยตัวอักษรสีฟ้า คำว่า "ปังชา" ที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นละเมิดลิขสิทธิ์ หรือเครื่องหมายการค้า เบื้องต้นทางร้านได้ลอกสติ๊กเกอร์สีฟ้าออกจากป้ายไฟหน้าร้านแล้ว เพื่อตัดปัญหา รวมทั้งในเพจของทางร้าน ได้ลบคำว่า "ปังชา" ออกไปแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว

ส่วนกรณีที่ร้านดัง ออกมาชี้แจงประมาณว่า มีการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนนั้น หากดูจากเอกสารที่ได้รับค่อนข้างชัดเจนตั้งใจที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหาย แต่หลังจากนี้ จะมีการฟ้องกลับหรือไม่ ต้องปรึกษาคนในครอบครัวก่อนว่าจะเอาอย่างไร ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจ