สนามข่าว 7 สี - วันนี้ สถานีบริการน้ำมัน หรือ ปั๊มเอสโซ่ จะเปิดให้บริการเป็นวันสุดท้าย หลังจากอยู่คู่คนไทยมานานถึง 129 ปี
บริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ก่อกำเนิดในประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2437 ซึ่งตั้งแต่วันพรุ่งไป โลโกเสือ ของเอสโซ่ จะทยอยเปลี่ยนเป็น ใบไม้ บางจาก ปิดตำนานพี่เสืออยู่คู่กับประเทศไทย มายาวนาน 129 ปีเต็ม
ภาพจากช่างภาพบันทึกไว้เมื่อปี 2519 หรือเมื่อ 47 ปีที่แล้ว ยุคนั้น ทั้งชุดพนักงานปั๊มเอสโซ่ มีหมวก ดูรถราที่วิ่งผ่านไปมาหน้าปั๊ม ดูคลาสสิกทีเดียว ที่เห็นก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ สมัยนั้นยังไม่มีคอมพิวเตอร์ พนักงานกำลังเขียนใบเสร็จให้ผู้ใช้บริการ ส่วนอีกภาพ คือ หน้าปัดหัวจ่าย ราคาน้ำมันประมาณลิตรละ 5 บาท ส่วนวันนี้ราคาเฉียด ๆ ลิตรละ 40 บาท ไปแล้ว
และภาพปั๊มเอสโซ่ เมื่อปี 2533 ทั้งพนักงาน หรือเด็กปั๊ม เริ่มเปลี่ยนไป หัวจ่ายน้ำมัน หน้าปัดมิเตอร์ เริ่มเป็นตัวเลขดิจิทัลแล้ว ภาพนี้ น่าจะเป็นการเปิดตัวขายน้ำมัน เบนซินรุ่นพิเศษ ภาพนี้นักข่าวบันทึกไว้ว่า เป็นบรรยากาศการขายน้ำมัน ซุปเปอร์ เอ็กซ์ที เมื่อ 33 ปีที่แล้ว ราคาน้ำมันลิตรละ 8 บาท 45 สตางค์ ทั้งปั๊ม ทั้งพนักงาน ก็มีพัฒนาการมาเรื่อย ๆ
ถ้าจำกันได้ ปั๊มเอสโซ่จะมีพนักงานสวมชุดเสือ มาโบกรถหน้าปั๊ม เรียกลูกค้าด้วย ถือว่าเป็นไอเดียที่ไม่เหมือนใคร คอนเซปต์เอสโซ่ คือ "จับเสือใส่ถังพลังสูง"
จากวันนั้น สู่วันนี้ ภาพปั๊มเอสโซ่ ก็พัฒนามาไกล สีปั๊มก็ให้เฉดสดใสขึ้น และเปลี่ยนคอนเซปต์เป็น "เติมความอุ่นใจ เต็มถัง" ตั้งแต่พรุ่งนี้ เอสโซ่จะเปลี่ยนเป็นบางจากอย่างเป็นทางการ หลังจากบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน เข้าซื้อกิจการด้วยมูลค่า 20,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 65.99% และเมื่อเอสโซ่กลายเป็นส่วนหนึ่งของบางจาก เมื่อรวมกัน จะมีปั๊มน้ำมันทั่วประเทศ 2,100 สาขา เทียบเท่ารายใหญ่ในตลาด
ปัจจุบันบางจากมีรายได้ปีละ 199,417 ล้านบาท เมื่อรวมกับเอสโซ่ ซึ่งรายได้ 172,907 ล้านบาท รวมกันราว 400,000 ล้านบาท เทียบกับ OR รายใหญ่ที่สุด มีรายได้ที่ 515,280 ล้านบาทต่อปี
ทีมข่าวสอบถามผู้ใช้บริการหลายคน ที่ปั๊มย่านกล้วยน้ำไท เป็นปั๊มน้องนุชสุดท้อง เพิ่งเปิดได้ 3 เดือน ก็ต้องเปลี่ยนป้ายเสียแล้ว