ไอติม พริษฐ์ เปิดร่างข้อบังคับสภาก้าวหน้า เพิ่มกลไกคานอำนาจฝ่ายบริหาร ให้ประชาชน 5,000 คน เข้าชื่อเพื่อเสนอญัตติ และให้ ร่าง พ.ร.บ.ที่ถูกเสนอโดยประชาชน เป็นเรื่องด่วน พิจารณาแบบฟาสต์แทร็ก
ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดร่างข้อบังคับสภาก้าวหน้า โดยระบุว่า แม้ข้อบังคับฉบับปัจจุบันถูกบังคับใช้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2562 แต่มีหลายส่วนที่สามารถปรับปรุงให้ก้าวหน้าขึ้นได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความโปร่งใส และความยึดโยงกับประชาชน ของสภาผู้แทนราษฎร สัปดาห์ที่แล้ว ตนและพรรคก้าวไกลจึงได้ยื่นร่างแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งขอเรียกว่าข้อบังคับ “สภาก้าวหน้า” เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ที่มีเนื้อหาสาระสำคัญดังต่อไปนี้
1. Digital Parliament (เพิ่มการใช้ช่องทางสื่อสารดิจิทัล) โดบกำหนดให้การส่งและเผยแพร่เอกสารภายในทั้งหมดทำผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก และจัดให้มีระบบ tracking ความคืบหน้าของการพิจารณากฎหมาย และการดำเนินการของหน่วยงานตามเรื่องการปรึกษาหารือในสภาฯ ที่ประชาชนเข้าถึงง่าย
2. Open Parliament (เพิ่มความโปร่งใสและการเปิดเผยข้อมูล) กำหนดให้มีการถ่ายทอดสด การประชุมทุกคณะกรรมาธิการและอนุกรรมาธิการ (ยกเว้นที่ประชุมมีมติให้ประชุมลับเป็นรายกรณี) และเปิดเผยรายงานการประชุม และข้อมูลการลงคะแนนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบตารางที่วิเคราะห์ต่อได้
3. Deliberative Parliament (เพิ่มการซัก-ถามนายกรัฐมนตรี) เพิ่มกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี ที่เปิดให้มีการถาม-ตอบระหว่างนายกฯ กับ ผู้นำฝ่ายค้าน และ สส.คนอื่น) โดยตรง 1 ครั้ง/สัปดาห์
4. Strong Parliament (เพิ่มกลไกตรวจสอบฝ่ายบริหาร) กำหนดให้ประธานของคณะกรรมาธิการสามัญที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ กิจการสภาผู้แทนราษฎร ต้องเป็น สส. ฝ่ายค้าน
5. Independent Parliament (เพิ่มกลไกคานอำนาจฝ่ายบริหาร) โดยยกเลิกอำนาจ ครม. ในการนำกฎหมายไป “ดอง” หรือศึกษาเพิ่มเติมได้ 60 วันก่อนจะมีการพิจารณาและลงมติในวาระ 1 รวมทั้งกำหนดกรอบเวลาให้ชัดเจนสำหรับ นายกฯ ในการใช้อำนาจพิจารณาว่าจะรับรองร่างการเงินให้เข้าสภาฯหรือไม่ หากพิจารณาเกิน 30 วัน ให้นับว่ารับรองโดยอัตโนมัติ
6. Rule-based Parliament (ลดการใช้ดุลพินิจของประธานสภาฯ) กำหนดให้ประธานสภาฯต้องออกหลักเกณฑ์และระเบียบเกี่ยวกับการวินิจฉัยว่าเรื่องอะไรเป็นเรื่องด่วน เพื่อให้มีมาตรฐานในการตีความ โดยที่สภาฯต้องเห็นชอบ และต้องมีการทบทวนทุก 1 ปี
7. Global Parliament (เพิ่มความเชื่อมโยงกับสากล) โดยกำหนดให้มีการแปลทุกพระราชบัญญัติที่สภาฯเห็นชอบเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นคลังข้อมูลในการสื่อสารกับประชาคมโลก
8. Anti-Discriminatory Parliament (ขจัดการเลือกปฏิบัติ) ห้ามการอภิปรายที่เป็นการก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลด้วยเหตุต่างๆ เช่น ชาติพันธุ์ ศาสนา เพศ สภาพทางกายหรือสุขภาพ ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม อาชีพ
9. People’s Parliament (เพิ่มกลไกประชาธิปไตยทางตรงและการมีส่วนร่วมของประชาชน) โดยเปิดให้ประชาชน 5,000 คน มีสิทธิเข้าชื่อเพื่อเสนอญัตติให้สภาพิจารณา จากปัจจุบันที่เปิดให้เฉพาะประชาชน 10,000 คน เข้าชื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติ กำหนดให้ร่างพระราชบัญญัติที่ถูกเสนอโดยประชาชน ถูกนับเป็นเรื่องด่วนที่ถูกพิจารณาก่อน (fast track)