ตรีนุช เปิดใจอำลาตำแหน่ง ฝากคนใหม่สานต่อนโยบาย เชื่อ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ปฏิรูปการศึกษาสำเร็จ

ตรีนุช เปิดใจอำลาตำแหน่ง ฝากคนใหม่สานต่อนโยบาย เชื่อ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ปฏิรูปการศึกษาสำเร็จ

View icon 270
วันที่ 31 ส.ค. 2566 | 15.37 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตรีนุช เปิดใจอำลาตำแหน่ง ฝากคนใหม่สานต่อนโยบาย เชื่อ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ปฏิรูปการศึกษาสำเร็จ

วันนี้ (31 ส.ค.66) เวลา 11.30 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ  สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีนายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงและข้าราชการ ร่วมมอบดอกไม้ให้กำลังใจก่อนอำลาตำแหน่งรัฐมนตรี

น.ส.ตรีนุช เปิดเผยว่า ตนรู้สึกผูกพันกับกระทรวงศึกษาธิการและข้าราชการทุกคน เพราะอยู่ในตำแหน่งรมว.ศึกษาธิการ มาเป็นเวลา 2 ปี และขอขอบคุณผู้บริหารศธ.ทุกคนที่ช่วยกันขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของตนจนประสบความสำเร็จ ทั้งนโยบายสถานศึกษาปลอดภัย โครงการพาน้องกลับมาเรียน โครงการอาชีวะอยู่ประจำเรียนฟรีมีงานทำ และโครงการโรงเรียนคุณภาพประจำชุมชน ซึ่งโครงการทั้งหมดถือเป็นโครงการที่สร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำให้แก่ผู้เรียนอย่างแท้จริง ดังนั้น ตนขอฝาก พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ว่าที่รมว.ศธ.คนใหม่เข้ามาช่วยสานต่อนโยบายด้วย เพราะตนมองว่าเป็นนโยบายที่ดี ส่วนตัวยังไม่ได้มีการประสานพูดคุยส่งไม้ต่อการทำงานกับพล.ต.อ.เพิ่มพูน แต่เชื่อมั่นว่าแม้พล.ต.อ.เพิ่มพูนจะเป็นข้าราชการตำรวจที่มาบริหารงานการศึกษาจะทำให้การปฎิรูปการศึกษาไปสู่ความสำเร็จได้ เพราะผลงานต่างๆ ของพล.ต.อ.เพิ่มพูน จะเป็นเครื่องมือพิสูจน์ตัวเอง

“เรื่องสำคัญที่อยากจะฝากคือ การพัฒนาครูที่จะต้องปรับเปลี่ยนองค์ความรู้ให้เท่าทันกับโลกเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งศธ.เป็นกระทรวงใหญ่องคาพยพในการบริหารงานมีความหลากหลาย หลักธรรมาภิบาลจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในการบริหารงาน เพื่อทำให้เกิดระบบมาตรฐานของความโปร่งใส” น.ส.ตรีนุช กล่าว

ด้านคุณหญิงกัลยา กล่าวว่า ตนดีใจที่ได้มาทำงานร่วมกับน.ส.ตรีนุช และรู้สึกมีบุญที่ได้มาร่วมขับเคลื่อนงานการศึกษาของประเทศ ซึ่งตนรู้สึกผูกพันกับข้าราชการทุกคน เพราะอยู่ในตำแหน่งรมช.ศธ.มาถึง 4 ปี ดังนั้น ตนขอฝากรัฐบาลใหม่ช่วยขับเคลื่อนนโยบายการเรียนการสอนโค้ดดิ้ง และวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อย่างต่อเนื่อง เพราะเรื่องเหล่านี้จะเป็นภูมิคุ้มกันให้แก่เด็กทุกคนในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงนโยบายการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชนตามแนวพระราชดำริที่ให้วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี (วษท.) ทุกแห่งนำไปสร้างเป็นหลักสูตร ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ให้แก่ชุมชน เพราะจะทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้อย่างมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง