สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ช่วงนี้ บ้านเรามีฝนตกหนักหลายพื้นที่ จากปัจจัยร่องมรสุมกำลังแรง และมรสุมประจำฤดูที่พัดปกคลุม
ปัจจัย คือ ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมประจำฤดูที่พัดปกคลุม มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้บ้านเรามีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางแห่ง ซึ่งวันนี้เป็นอีกวัน ที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตก
ภาคเหนือ ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก กำแพงเพชร ภาคอีสาน ที่จังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา ภาคกลาง ที่จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง กาญจนบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก ทุกจังหวัด ภาคใต้ ที่จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยต้องระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก
ขณะที่ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. เฝ้าระวังพื้นที่ ฝนตกหนัก โดยเฉพาะภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. ในฐานะรองผู้อำนวยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ กล่าวว่า ฝนที่ตกสะสมช่วงนี้ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากถึงวันพรุ่งนี้ เนื่องจากปริมาณฝนทั่วไทย ตกเยอะและตกหนัก ประชาชนในพื้นที่ต้องเตรียมรับมือ ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
ส่วนความคืบหน้าเหตุการณ์น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน พื้นที่ทางการเกษตร และถนนหนทางในชุมชนตำบลประณีต และตำบลสะตอ อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ในช่วงที่ผ่านมา พบว่า เมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ (2 ก.ย.) สถานการณ์น้ำท่วมในบางพื้นที่ เริ่มลดลงบ้างแล้ว ขณะที่ถนนหลายสายเริ่มสัญจรได้ แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ในชุมชนที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ และพื้นการเกษตรหลายแห่งมีระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร
ล่าสุด นายอำเภอเขาสมิง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมด 124 ครัวเรือน ในพื้นที่ 7 หมู่บ้านของตำบลประณีต นอกจากนี้ยังมีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 920 ไร่
ส่วนที่ตำบลสะตอ ได้รับผลกระทบ จำนวน 2 หมู่บ้าน รวม 50 ครัวเรือน สำหรับพื้นที่หมู่ 7 บ้านทุ่งกระบอก พบว่า มีมวลน้ำไหลมาจากอำเภอบ่อไร่ และจากตำบลประณีต เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และถนนหนทางแล้ว เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำคล้ายกับแอ่งกระทะ ทำให้มวลน้ำไหลมารวมกันอย่างรวดเร็ว พบมีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนแล้ว 19 ครัวเรือน โดยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 116 บ่อไร่ ได้นำรถยนต์ และเรือท้องแบน เข้ามาช่วยเหลือลำเลียงชาวบ้านที่เป็นผู้สูงอายุออกจากพื้นที่แล้ว พร้อมทั้งช่วยกันขนย้ายข้าวของที่จำเป็นออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังเช่นเดียวกัน
