ป้าสุดแสบ ซื้อของร้านค้า ชักดาบ-ย้ายบ้านหนี จ.เพชรบูรณ์

View icon 401
วันที่ 4 ก.ย. 2566 | 07.11 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - เจ้าของร้านขายของชำโพสต์โซเชียลตามหา สามี-ภรรยา มีพฤติกรรมสุดแสบ เชื่อสินค้าลงบัญชีไว้เดี๋ยวจะมาจ่ายให้เป็นงวด ๆ สุดท้ายล่องหนเก็บข้าวของย้ายออกจากบ้านเช่า หลบหนี

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้นำเรื่องราวนี้มาโพสต์ ข้อความว่า "ใครพบเจอบุคคลในภาพ ช่วยติดต่อมาบอกที่ร้านหน่อยนะคะ ฝากบอกให้นำของมาคืนด้วยนะคะ #ร้านณรงค์ธรพาณิชย์ เขาได้นำข้าวสาร และของที่ร้านไปพร้อมถังน้ำแข็ง 1 ใบ หนีหายไปไม่ติดต่อมา ถ้าเขาไปที่ร้านใครอย่าหลงเชื่อนะคะ" 

พร้อมกันนี้ ผู้โพสต์ยังได้โพสต์คลิปภาพกล้องวงจรปิด บันทึกภาพผู้หญิงอายุประมาณ 50-60 ปี รูปร่างท้วม ผมยาวประบ่า สวมเสื้อแขนยาวลายดอก นุ่งกางเกงขายาวสีน้ำเงิน ยืนคุยกับเจ้าของร้านขายของชำได้สักพัก ก่อนเลือกซื้อข้าวของภายในร้านขายของชำแห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านโคกปรง หมู่ที่ 2 ตำบลโคกปรง อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์

ผู้สื่อข่าวดินทางไปยังร้านขายของชำตามที่ระบุในโพสต์ ได้พบกับเจ้าของร้าน เล่าว่า หญิงที่ปรากฏในคลิป นั่งรถเก๋งสภาพเก่ามาหาที่ร้าน แล้วคุยโวว่า กำลังจะเปิดร้านอาหารและรับทำข้าวกล่องขาย ต้องการติดต่อซื้อข้าวสาร, ของใช้ในครัว และน้ำแข็ง พร้อมกันนี้ ยังได้ขอยืมถังใส่น้ำแข็งด้วย 1 ถัง มูลค่ากว่า 5,000 บาท อ้างว่าต้องใช้แช่อาหารสด จากนั้นตกลงชำระเงินเป็นงวด ๆ ทุกวันศุกร์

แรก ๆ ที่หญิงคนนี้มาเชื่อของในร้านแล้วลงบัญชีไว้ในนามชื่อว่า "กุหลาบ" พอถึงรอบก็นำเงินมาชำระตลอด กระทั่งเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา กลับมาซื้อข้าวสารและข้าวของอีกหลายรายการ รวมราคาประมาณ 1,000 บาท โดยเชื่อลงบัญชีไว้เหมือนเดิม แต่คราวนี้ถึงกำหนดหญิงคนนี้กลับหายหน้า รอแล้วรอเล่า รอมาหลายวันก็ไม่มา ที่สุดต้องไปตามถึงบ้าน แต่ไม่เจอ โดยทราบเรื่องจากเจ้าของบ้านเช่าว่าหญิงคนดังกล่าวเก็บข้าวของย้ายออกไปได้ 3 วันแล้ว โดยที่ยังค้างค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟของเดือนที่แล้วอีกด้วย

พฤติการณ์สุดแสบไม่ได้มีเท่านี้ ยังจะไปหลอกลวงแม่ชี อายุ 83 ปี โดยหญิงคนนี้พร้อมกับสามีเข้าไปหาแม่ชีที่วัด เสนอขายยาสมุนไพร 2 ชุด แต่ถ้าซื้อครบ 10 ชุด จะมีเงินปันผลให้เหมือนเป็นเงินเดือน เดือนละ 6,000 บาท และพอคุยไปคุยมาก็บอกว่าจะยกที่ดินกว่า 100 ไร่ ให้วัด แต่พอทางวัดไปตรวจสอบข้อมูลปรากฏว่าที่ดินที่ชายหญิงคู่นี้นำมาอ้างนั้นไม่ใช่ของตัวเองเลย ดูพฤติการณ์แล้วไม่น่าไว้วางใจ ทางวัดจึงห้ามไม่ให้ทั้ง 2 คน เข้ามายุ่งเกี่ยวในวัด กระทั่งมาทราบว่าไปหลอกลวงชาวบ้านและร้านขายของชำในหมู่บ้าน พากันเดือดร้อนไปหมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง