เช้าข่าว 7 สี - ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับกรมศิลปากร บุกทลายแก๊งนักล่าสมบัติโบราณ ที่นำโบราณวัตถุไปประกาศขายผ่านเฟซบุ๊ก ตรวจยึดโบราณวัตถุได้กว่า 1,000 ชิ้น
เรื่องนี้เริ่มจากที่กรมศิลปากรไปตรวจสอบพบว่า มีการลักลอบนำวัตถุโบราณไปเสนอขายผ่านเฟซบุ๊ก เป็นพระรัศมีเปลวของพระพุทธรูป ขนาดประมาณ 20 นิ้ว และตราประทับรูปสัตว์ยกซุ้มเครือวัลย์ คาดว่าเป็นของโบราณสมัยสุโขทัย จึงประสานตำรวจให้ช่วยติดต่อล่อซื้อจากนักค้าวัตถุโบราณ เมื่อนำไปตรวจพิสูจน์ ปรากฏว่าเป็นโบราณวัตถุจริง
พอตำรวจไปรวบรวมข้อมูลหลักฐาน พบว่าขบวนการนี้มี 2 กลุ่มใหญ่ เป็นกลุ่มขุดวัตถุโบราณมีทั้งหมด 5 คน อีกกลุ่มเป็นกลุ่มพ่อค้ารับซื้อวัตถุโบราณ จึงไปขอหมายค้น เข้าตรวจค้น 9 จุด ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง พะเยา สุโขทัย และราชบุรี
จับผู้ต้องหา 3 คน ซึ่งเป็นกลุ่มขุดวัตถุโบราณ คือ นายทศพร อายุ 26 ปี, นายทศพล อายุ 19 ปี และ นายศรีออน อายุ 46 ปี ได้ในพื้นที่อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี พร้อมกับยึดสิ่งของคล้ายโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ กว่า 1,000 ชิ้น และยังยึดเครื่องสแกนโลหะ 11 เครื่อง อุปกรณ์การขุด เป็นหลักฐาน
โดยของกลางกว่า 1,000 ชิ้น ที่ยึดมา ได้ถูกนำมาวางแสดงไว้บนโต๊ะแถลงข่าว โดยวัตถุโบราณดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นเครื่องใช้ประจำวันของคนโบราณ ทั้งเครื่องสัมฤทธิ์ เครื่องทองเหลือง เครื่องเคลือบ พระเครื่อง เครื่องประดับ กำไล ดาบ เคียว หอยเบี้ย
มี 2 ชิ้น ที่มีอายุเก่าแก่มาก ชิ้นแรกเป็นสัมฤทธิ์รูปวัว อายุประมาณ 1,600 ปี อีกชิ้นเป็นสัมฤทธิ์ รูปช้าง มีตราประทับ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 21 ลงมา หรือสมัยอยุธยาตอนกลาง
โดยวิธีการของแก๊งนี้จะตระเวนไปตามวัด หรือ โบราณสถานตามจังหวัดต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคเหนือ อย่าง เชียงใหม่ ลำปาง สุโขทัย และพะเยา ก่อนจะใช้เครื่องสแกนโลหะตรวจหาของโบราณที่ฝังอยู่ใต้ดิน เมื่อเครื่องตรวจเจอ โลหะ หรือ สัมฤทธิ์ เครื่องก็จะร้อง
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ให้ข้อมูลว่า โบราณสถาน โบราณวัตถุ ไม่ว่าจะขึ้นทะเบียนคุ้มครอง หรือ ไม่ขึ้นทะเบียน ล้วนมีกฎหมายคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ซึ่งตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว ห้ามมิให้มีการขุด ค้นหา หรือซื้อขายโบราณวัตถุ