ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ภาวะทางเศรษฐกิจที่บีบรัด ทำให้เจ้าของช้างที่เลี้ยงช้างไว้ใช้งานนานถึง 20 ปี ตัดสินใจประกาศขายช้างราคา 1,000,000 บาท เพื่อให้ช้างที่ตัวเองรักและผูกพัน ได้ไปมีชีวิตการกินอยู่ที่ดี ซึ่งตอนนี้ มีคนติดต่อซื้อช้างเชือกนี้แล้ว แต่จะเป็นใครที่ติดต่อซื้อช้างเข้ามา ซื้อไปทำอะไร ติดตามกัน
นี่คือช้างที่ชื่อว่า "พังบุญชู" เป็นช้างเพศผู้ อายุ 45 ปี ลักษณะของพังบุญชู มีงาซ้ายข้างเดียว ผู้เป็นเจ้าของพังบุญชู คือนายดิฐพงศ์ ท้าวขว้าง อายุ 45 ปี เป็นชาวบ้านในหมู่บ้านปงแท่น ตำบลจางเหนือ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง
นายดิฐพงศ์ เล่าว่า ซื้อช้างเชือกนี้ มาตั้งแต่ปี 2546 ในราคา 300,000 กว่าบาท รวมถึงวันนี้เป็นเวลา 20 ปี แล้ว โดยตอนนั้น ซื้อมารับจ้างลากจูงไม้ จนเมื่อมีการปิดป่าไม่ให้ทำไม้แล้ว จึงนำพังบุญชูออกไปรับจ้างให้บริการนักท่องเที่ยวตามปางช้างแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย มีรายได้ประมาณเดือนละ 30,000 บาท ตอนนั้นเคยมีคนมาขอซื้อช้างราคา 1,700,000 บาท แต่ไม่ขาย เพราะมีความผูกพันกันช้างมาก
จุดเปลี่ยนมาอยู่ในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาด ไม่มีนักท่องเที่ยว และปางช้างก็ไม่ได้จ้างต่อ จึงต้องนำช้างกลับมาเลี้ยงที่บ้านในอำเภอแม่เมาะ เปลี่ยนอาชีพมาเป็นปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ขาย ส่วนเจ้าพังบุญชูนั้น ก็ปล่อยให้หากินในป่า ซึ่งส่วนใหญ่พื้นที่แถวนี้ ทำเกษตรปลูกข้าวโพด และข้าว ช้างพังบุญชู ก็ไปกินข้าวโพดและข้าวชาวบ้าน ตนก็ต้องไปตามจ่ายค่าเสียหายครั้งละ 10,000-20,000 บาท
นายดิฐพงศ์ บอกว่า ต้องล่ามช้างไว้ในป่า ให้ห่างจากพื้นที่เกษตรของชาวบ้น โดยนำหญ้ากับน้ำไปให้ และให้ช้างหากินเองตามธรรมชาติด้วย แต่ก็สงสารช้าง เพราะดูแลได้ไม่เต็มที่ กินไม่อิ่ม จึงตัดสินใจประกาศขาย 1,000,000 บาท เพื่อให้ช้างได้ไปเจอเจ้าของที่ดี ได้รับการดูแลที่ดี
ส่วนหลังการประกาศขาย มีคนติดต่อขอซื้อหรือไม่นั้น นายดิฐพงศ์ บอกว่า มีคนติดต่อขอซื้อพังบุญชู ไปดูแลแล้วเป็น "ตุ๊เจ้า" หรือพระภิกษุ อยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร ตกลงซื้อขายกันราคา 850,000 บาท จะเดินทางมารับช้างช่วงเย็นวันนี้เลย
พระภิกษุที่รับซื้อช้างเชือกดังกล่าว ผู้สื่อข่าวตรวจสอบแล้ว พบว่า คือพระญาณวิกรม หรือหลวงพี่อุเทน วัดท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่วัด ก็ทราบว่า หลังจากที่หลวงพี่อุเทน เห็นข่าวประกาศขายช้างดังกล่าว ก็ติดต่อไปที่เจ้าของช้างทันทีเมื่อเช้านี้ เพื่อขอซื้อช้าง เนื่องจากต้องการช่วยชาวบ้านที่กำลังลำบาก และช่วยช้างให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และตกลงซื้อขายกับเจ้าของช้างได้เมื่อเช้านี้ ก็ออกเดินทางไปจังหวัดลำปางทันที เพื่อไปรับช้างมาที่วัดท่าไม้ ส่วนที่วัด ก็ให้จัดเตรียมสถานที่ให้ช้างอยู่ โดยจะนำมาเลี้ยงไว้เพื่อดูแล ไม่ได้ซื้อมาในเชิงธุรกิจแต่อย่างใด
