ข่าวเย็นประเด็นร้อน - แม่ค้าสาว อยากได้เงินไปลงทุนค้าขายของ จึงไปกู้เงินออนไลน์ สุดท้ายจ่ายไม่ไหว ถูกขูดรีดดอกเบี้ย รวมค่าปรับ ทบต้นทบดอก กว่า 2.6 ล้านบาท จากรับเงินจริงแค่ 8-9 แสนบาท
แม่ค้าสาว อายุ 26 ชาวจังหวัดนครพนม ออกมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ กรณีตกเป็นเหยื่อแก๊งเงินกู้ นอกระบบ ในรูปแบบออนไลน์ โดยเธอ เล่าให้ฟังว่า หลังตกงาน ก็ต้องการหาเงินไปลงทุนค้าขาย จึงทักแชท เข้าไปสอบถามรายละเอียดเงินกู้นอกระบบ ในรูปแบบออนไลน์ พร้อมแจ้งข้อมูลบัตรประชาชน ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์
โดย งวดแรก ได้เงินมาจำนวน 30,000 บาท แต่ถูกหักดอกเบี้ยล่วงหน้า 10,000 บาท รับจริง แค่ 20,000 บาท ส่วนเงื่อนไขการส่งคืน-ต้องส่งคืนเต็ม 30,000 บาท ในเวลา 7 วัน โดยแต่งวดแรก หาเงินส่งคืนทัน ต่อมา งวดสอง ได้รับอนุมัติวงเงินกู้เพิ่ม เป็นเงิน 50,000 บาท หักดอกเบี้ยล่วงหน้า 18,000 บาท รับเงินจริง จำนวน 32,000 บาท ส่วนกำหนดจ่ายเงินคืน ภายใน 7 วัน แต่งวดที่ 2 เริ่มเกิดปัญหา ไม่สามารถส่งคืนได้ตามกำหนด
จึงตัดสินใจไปกู้เงินออนไลน์ เจ้าอื่น เพื่อนำมาหมุนเวียน โดยที่ตนเองไม่ทราบมาก่อน ว่า "หากเลยกำหนดชำระ จะถูกเรียกเก็บดอกเบี้ย รวมถึง ค่าปรับล่าช้า เป็น 10 เท่า" จากนั้น ปัญหาเริ่มหนักขึ้น ไปกู้ออนไลน์ รวม 18 เจ้า เป็นหนี้ ทั้งต้น ทั้งดอก รวม 2,600,000 บาท ภายในเวลา 2-3 เดือนเท่านั้น โดยทุกวันนี้ต้องชำระต้นรวมดอกวันละ 150,000 บาท จากนั้น ก็เริ่มถูกข่มขู่คุกคาม ในทุกรูปแบบ ทั้งการนำรูปภาพผู้เสียหายไปโพสต์ประจานตามหน้าเฟซบุ๊กต่าง ๆ ทั้งโทรศัพท์ไปป่วนตามญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูง จนอับอายต้องมาร้องสื่อ
นอกจากนี้ ผู้เสียหาย ยังบอกอีกว่า ยืนยันไม่มีเจตนาจะเบี้ยวหนี้ แต่รู้สึกว่า แอปกู้เงินเริ่มมีพิรุธ คือ พอเราจ่ายเงินไม่ไหวจากแอปพลิเคชนแรก ก็จะมีนายทุน หรือ เงินกู้นอกระบบออนไลน์อื่น ๆ อีกจำนวนมาก ทักแชทเข้ามาให้กู้ยืมเงินเพิ่ม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไลน์อวตานไม่มีตัวตน และด้วยความที่เราเดือดร้อนอยู่ จึงหลงเชื่อ ก่อนสุดท้ายมารู้ทีหลังว่าเป็นนายทุนคนเดียวกัน แต่ทำงานเป็นทีม ยอมรับว่า หลงเชื่อง่ายไป ทั้งที่ผ่านมา รับเงินมาจริง ๆ แค่ 8-9 แสนบาทเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ผู้เสียหาย ยังบอกอีกว่า ที่ออกมาร้องสื่อ เพราะต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือปราบปรามขบวนการปล่อยเงินกู้ออนไลน์อย่างจริงจัง แต่ในส่วนของตนเองที่จะต้องชดใช้หนี้ ก็ยินดี แต่ขอให้เป็นยอดเงินตามจริงที่รับเงินมา
