อนุทิน มท.หนู ยืนยัน ยุคผมไม่มีซื้อขายตำแหน่ง ทำงานแบบไม่มีท่าน ไม่มีนาย มีแต่พี่น้อง ภายใต้ "สั่งการวันนี้ ต้องเสร็จเมื่อวาน"
วันนี้ ( 7ก.ย.66 ) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมรัฐมนตรีช่วยทั้ง 3 คน เข้าสักการะกราบถวายสักการะสมเด็จพระสังฆราช และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดราชบพิธ เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเดินทางเข้าสักการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงมหาดไทย มีปลัดฯพร้อมขรก.ต้อนรับอย่างอบอุ่น
นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้เข้ามาจัดเตรียมห้องทำงาน และทำความรู้จักกับข้าราชการ ซึ่งตนโชคดี ที่รู้จักคุ้นเคยกับนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มาเป็น 10 ปี ตั้งแต่สมัยที่บิดานายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นมท. 1 เมื่อปี 52 ถึงปี 54
พร้อมย้ำ ยุคนี้ รัฐมนตรีทุกคน มาจากสส.ที่มีความใกล้ชิด และเข้าใจประชาชน เข้าถึงง่าย และมีความตั้งใจแน่วแน่ เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ในทุกระดับ เราจะร่วมทำงานกับข้าราชการ โดย ไม่มีคำว่าท่าน ไม่มีคำว่านาย แต่เราทุกคนคือพี่น้องกัน ยึดหลักการทำงาน คือ ให้เกียรติและไว้ใจหัวหน้าส่วนราชการโดยไม่เข้าไปก้าวก่าย
ทั้งนี้รัฐมนตรีทุกคน จะช่วยกันทำงาน สามารถประสานทุกกรมทุกหน่วยงานได้เท่าเทียมกัน เราทำงานแบบพี่เป็นน้องกัน เพราะงานมหาดไทยท้าทายทุกงาน ไม่มีขีด จำกัด ทุกเรื่องเป็นเรื่องเร่งด่วน เราจะทำ ทุกมิติ เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และจะสานต่อการทำงานร่วมกันของ กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุข ให้ทุกจังหวัดเท่าเทียมกัน ไม่มีจังหวัดหลักจังหวัดรอง Soft Power ทุกพื้นที่ดันเพื่อท่องเที่ยวได้หมด ทำให้เศรษฐกิจและเม็ดเงินหมุนเวียน นอกจากนี้ทุกจังหวัดและพื้นที่จะเตรียมพร้อม สนับสนุนโครงการเงินดิจิทัล10,000 บาท ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ยังไม่ขอพูดอะไร เพราะยังไม่เจอ ผู้ว่าฯชัชชาติ ย้ำเรื่องใดที่เป็นเรื่องด่วนและเป็นเรื่องที่ถูกต้องเราต้องทำ การกลั่นแกล้งและให้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจะไม่เกิดขึ้น
ส่วนกรณีที่มีเหตุการณ์กำนัน ยิงตำรวจ จากฝากตำแหน่งไม่ได้ นายอนุทิน ระบุว่า จะมีการหารือกันแต่ตนต้องเชื่อมั่นในหน่วยงานราชการ ซึ่งปลัดกระทรวงต้องนำนโยบายของรัฐมนตรีไปปฏิบัติ หากมีปัญหาตนมั่นใจเมื่อโทรศัพท์หาปลัดกระทรวง หรือรัฐมนตรีช่วยต่างๆ จะได้รับการตอบสนองอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องห่วง ซึ่งตน สั่งการวันนี้ ต้องเสร็จเมื่อวาน
นายอนุทิน ยืนยัน กระทรวงมหาดไทย ยุคผม การซื้อขายตำแหน่งต้องไม่มี ต้องไม่เกิดขึ้น เพราะนายกฯย้ำเป็นเรื่องสำคัญในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งตรงกับความตั้งใจ ตรงกับเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีทุกคนโดยเฉพาะตน
