สนามข่าว 7 สี - ตามต่อคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ยิงพันตำรวจตรีศิวกรเสียชีวิตคาบ้านกำนันนก จังหวัดนครปฐม แถมยิงต่อหน้าตำรวจหลายสิบนาย วานนี้ กำนันนก ถูกกดดันจนมอบตัวแล้ว แต่ประเด็นที่สังคมสงสัย ตำรวจทั้งในพื้นที่ นอกพื้นที่ ไปรวมตัวกันที่บ้านกำนันนก แถมมีการเจรจาฝากเด็กกันอีก งานนี้เกิดเป็นคำถามเลย กำนันนก เป็นผู้มีอิทธิพลกว้างขวางในพื้นที่ขนาดไหน คุมตำรวจในพื้นที่ด้วยหรือไม่
ตำรวจ 21 นาย รวมตัวบ้าน กำนันนก มีนอกมีใน ?
ใหญ่แค่ไหนเราไปดูงานเลี้ยงที่จัดขณะเกิดเหตุกันหน่อย จากข้อมูลตำรวจที่ไปร่วมงานมีทั้งหมด 22 นาย ในงานมีครบ เครื่องดื่มทุกขนาน มีเวที คนใหญ่คนโตในจังหวัดนครปฐม มาร่วมงานกันเพียบ โดยเฉพาะตำรวจ มีทั้งตำรวจทางหลวง, สน.พญาไท, ปทส. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม), สภ.กำแพงแสน, ปคม. (กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์), สภ.สระยายโสม, สภ.กระทุ่มแบน และ สภ.บ้านเผือก
ไปเจาะเฉพาะโต๊ะของ พันตำรวจตรี ศิวกร สายบัว ที่เสียชีวิต พบว่าในโต๊ะเป็น VVIP มีแต่ตำรวจที่ตำแหน่งไม่ธรรมดา เราเริ่มกันที่หัวโต๊ะก่อน คนที่นั่งหัวโต๊ะคือ นายประวีณ หรือกำนันนก ถัดไปเป็นดาบตำรวจทางหลวง, สารวัตรทางหลวง ถัดมาเป็นพันตำรวจตรีศิวกร ที่เสียชีวิต, ตำรวจทางหลวงยศจ่าสิบตรี 2 คน, รองผู้กำกับการตำรวจทางหลวง, ผู้กำกับการตำรวจทางหลวง, ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดนครปฐม, ผู้กำกับ สน.พญาไท (อดีตตำรวจทางหลวง)
การดื่มสังสรรค์เหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ระหว่างที่นั่งดื่ม กำนันนกได้พูดขอให้พันตำรวจตรีศิวกร ช่วยเลื่อนตำแหน่งให้ญาติของกำนันนกให้หน่อย จากเดิมเป็นตำรวจสายตรวจวิทยุ เป็นสายตรวจจักรยานยนต์แทน แต่พันตำรวจตรีศิวกร ไม่ตกลง บอกให้ไปขอผู้ใหญ่เอาเอง เพราะเขาไม่สามารถทำได้ การเปลี่ยนตำแหน่งต้องเป็นไปตามระเบียบตามหลักเกณฑ์
ทีนี้กำนันนกไม่พอใจถึงขั้นทุบโต๊ะ หลังจากนั้น กำนันนกก็ลุกออกไป เดินไปหา นายหน่อง ท่าผา มือปืนที่นั่งอยู่อีกโต๊ะ หลังจากนั้น พันตำรวจตรีศิวกร ก็พยายามจะเข้าไปเคลียร์ใจ แต่ไม่เป็นผล จึงกลับมานั่งที่โต๊ะเดิม จากนั้น นายหน่อง ท่าผา ได้เดินมาประชิดตัว ก่อนกระหน่ำยิงใส่พันตำรวจตรีศิวกร
เรื่องมันไม่ได้มีแค่ตำรวจตำรวจยศไม่ธรรมดาไปร่วมงานเลี้ยง แต่หลังจากพันตำรวจตรีศิวกร ถูกยิงแล้ว ตำรวจที่เหลือส่วนใหญ่ นิ่ง ไม่หือไม่อือ ก่อนจะแยกย้ายกันไปนอกพื้นที่ และมีการทำลายหลักฐาน โดยเฉพาะกล้องวงจรปิด งานนี้เป็นเรื่องเลย เพราะเหตุเกิดซึ่งหน้า คนที่ถูกยิงคือตำรวจด้วยกันเอง แต่ตำรวจที่อยู่ด้วยนับ 20 คน กลับปล่อยมือปืน ผู้ต้องหาหลบหนีไปอย่างลอยนวล จะอ้างว่าไม่มีปืนสักคนมันได้หรือ นั่งดูคนทำลายหลักฐานด้วยนั้นใช่หรือ อย่างกำนันนก บ้างก็บอกว่า ถ้า ผบ.ตร.ไม่ประกาศกร้าวว่าให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด ก็คงไม่กลัวถึงขั้นติดต่อมามอบตัว
เราเจาะลึกข้อมูลลงไปอีกพบว่า กำนันนก ชอบจัดงานสังสรรค์มาก จัดทุกเดือน จัดบ่อยเท่าที่มีโอกาส เพื่อแสดงพลังให้เห็นว่าตัวเองนี่ไม่ธรรมดา มีตำรวจล้อมรอบ อย่างวันเกิดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนปีก่อน นายหน่อง ท่าผา มือปืน ได้โพสต์ภาพพร้อมคลิป ระบุข้อความ "HBD ครับลูกพี่ กำนันนก" ซึ่งภายในคลิปมีคนใหญ่คนโตไปร่วมอวยพร ทั้ง นายก อบจ., ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด, รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด, ผู้กำกับ, กำนันในจังหวัดเป็น 10 คน มาร่วมงาน
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เมื่อครู่มีหลายหน่วยงานไปร่วมอวยพรวันเกิด แต่คลิปนี้คุณผู้ชมไปดูว่า ใครมาร่วมอวยพรวันเกิดกันอย่างสนุกสนาน แอบกระซิบว่าหัวเกรียนทั้งนั้น
อวยพรกันอย่างชื่นมื่น ขอให้เส้นทางราบรื่น ไม่มีใครมายุ่งวุ่นวาย พร้อมผายมือไปที่ตำรวจที่อยู่ในคลิป ไม่รู้ว่าจะเป็นนัยบอกอะไรหรือไม่ ให้คุณผู้ชมคิดเอาเอง
และจากข้อมูลที่ได้มาจากนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ บอกว่า ตำรวจที่ไปร่วมงานอาจมีนอกมีในแฝงอยู่ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ "บิ๊กโจ๊ก" พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ก็ยอมรับว่าสงสัยในประเด็นนี้ด้วย
และล่าสุดเมื่อคืนนี้ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมอบให้ พันตำรวจเอก ณัฐพงษ์ ปิตะบุตร รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เป็นประธาน โดยให้รายงานผลภายใน 20 วัน นอกจากนี้ใจความสำคัญของหนังสือดังกล่าว ยังระบุให้สอบสวนตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ รวมไปถึงให้ขยายผลเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้เพิ่มเติมด้วย
เปิดอีกสาเหตุยิงตำรวจทางหลวงเสียชีวิต
สาเหตุการยิง นอกจากประเด็นเรื่องการขอย้ายตำแหน่งแล้ว สนามข่าว 7 สี ได้มีโอกาสคุยกับตำรวจที่สืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ ให้ข้อมูลว่าอีกประเด็นที่ทำให้ กำนันนก ไม่พอใจพันตำรวจตรีศิวกร มาจากการท้าทายการดื่มเหล้า ทั้งคู่แข่งกันดื่มแบบเพียว ๆ เลย ดื่มไปดื่มมาปรากฏว่า พันตำรวจตรีศิวกร ดื่มเก่งกว่า ยกหมดแก้วชนะกำนันนกตลอด ทำให้กำนันนกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ถือว่าหยามศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย
ทีนี้เราไปฟังความเห็นจากอดีตตำรวจสันติบาล อย่าง นายสันธนะ ประยูรรัตน์ บอกว่า งานที่จัดขึ้นเป็นการสร้างบารมีของกำนันนก ที่เตรียมจะเป็นบ้านใหญ่ในจังหวัด และตำรวจที่ไปร่วมงานต่างมีผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสิ้น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ส่วนข่าวที่มีการพูดถึงว่าตำรวจที่ไปไม่มีปืนสักกระบอก ทำให้ไม่สามารถทำอะไรได้ นายสันธนะ บอกว่า ถ้าอ้างแบบนี้ ให้เลิกเป็นตำรวจไปเสียดีกว่า
คดีนี้นอกจากต้องจับตาเรื่องความกว้างขวางของผู้ต้องหา เป็นคนมีอิทธิพลในพื้นที่ มีนอกมีในอะไรกับวงการสีกาบ้างหรือไม่ แต่วันนี้ถือเป็นอีกครั้งที่เราได้เห็นภาพ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร., พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ว่าที่แคนดิเดตตำรวจทั้ง 2 ท่าน ลงพื้นที่ร่วมมือกันไขคดี แม้ว่าจะลงไปจังหวัดเดียวกัน แต่ไม่เจอกันก็ตาม หลังจากก่อนหน้าเราเคยเห็นภาพการจับมือกันในคดีจีนเทา ก่อนที่ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ จะเฟดตัวออกไป
งานนี้ต้องจับตาว่าแคนดิเดตทั้ง 2 ท่าน กำลังเร่งสร้างผลงาน เพื่อให้เข้าตานายกเศรษฐาหรือไม่ เพราะมีรายงานว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้า 14 กันยายน ก่อนนายกฯ เดินทางไปสหประชาชาติ จะมีการประชุม ก.ตร. และแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่