ข่าวภาคค่ำ - นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี สั่งปลด นายก อบต.แก่งเสี้ยน ให้พ้นจากตำแหน่ง พร้อมขึ้นทะเบียนบัญชีผู้มีอิทธิพล หลังข้าราชการรวมกลุ่มร้องเรียนพฤติการณ์พกพาอาวุธปืนและข่มขู่พยาน ติดตามรายละเอียดกับคุณสุธาทิพย์ ผาสุข
เพราะผู้บังคับบัญชาถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน กรณีละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นเหตุให้ข้าราชการเสียหาย และมีพฤติการณ์การพูดจาข่มขู่ พกพาอาวุธปืนเข้ามายังสถานที่ทำงาน และนำพาผู้ติดตาม ลักษณะเหมือนชายฉกรรจ์ เข้า-ออกสถานที่ราชการได้ตามอัธยาศัย ทำให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ อบต.แก่งเสี้ยน พร้อมกับชาวบ้าน ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของ นายจักรกฤช รวมกลุ่มกันออกมาเรียกร้อง ขอให้ทางจังหวัดกาญจนบุรี เร่งให้ความคุ้มครองพวกเขาในฐานะผู้ให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสอบสวนโดยเร็ว
แม้ว่าวันนี้ นายจักรกฤช จะถูกนายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ปลดออกจากตำแหน่ง จากการปรากฏคำพิพากษาของศาลล้มละลายกลาง ว่าเป็นบุคคลล้มละลาย ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้าม ตาม พ.ร.บ. การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มาตรา 50 (2)
และภาพถ่ายคลิปวิดีโอ ที่ปรากฏ เป็นหนึ่งในหลักฐานที่ถูกนำมายื่นแสดง เพื่อขอให้พิจารณาตรวจสอบว่าเข้าข่ายเห็นควรต้องขึ้นบัญชีเป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่
จากข้อมูลที่ปรากฏ ทำให้เวลานี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี รับปากส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลความปลอดภัย โดยจะประสานไปยังตำรวจให้ดำเนินการช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง พร้อมกับตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อขึ้นบัญชีทะเบียนผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย
สำหรับจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ตัวแทนผู้ประกอบการรายหนึ่ง ร้องเรียนความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง โครงการจ้างเหมากำจัดขยะมูลฝอย ทั้งการเปิดประมูล การจัดจ้างพิเศษโดยมิชอบกับบริษัทเอกชนที่อยู่ในรายชื่อผู้เข้าร่วมซื้อซองประมูล แต่เมื่อถึงวันยื่นเสนอราคา กลับไม่ประมูลเพื่อแข่งขัน ปล่อยให้มีบริษัทเดียวเสนอชื่อ และกล่าวหาถึงพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งมีการพาดพิงถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดกาญจนบุรีด้วย ขณะที่ทางจังหวัดยืนยันว่าจะยังคงเดินหน้าตรวจสอบเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
การตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น คอลัมน์หมายเลข 7 ยังพบว่าเรื่องนี้เคยถูกนำเข้าไปพิจารณาในคณะกรรมาธิการ และพบถึงความไม่ปกติในพื้นที่บ่อขยะเชิงเขาทอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการอีกด้วย
บทสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นยังเป็นประเด็นที่จะต้องติดตามต่อไป เช่นเดียวกับการชี้แจงของ นายจักรกฤช ซึ่งที่ผ่านมาได้ยืนยันถึงความบริสุทธิ์ และเชื่อว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง
