รวบกลางถนนสายเอเชีย หนุ่มขับ BENZ สวมทะเบียน ไร้เอกสารรถ

รวบกลางถนนสายเอเชีย หนุ่มขับ BENZ สวมทะเบียน ไร้เอกสารรถ

View icon 917
วันที่ 17 ก.ย. 2566 | 11.06 น.
ข่าวในประเทศ
แชร์
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) จับกุม นายณัฐดนัยฯ อายุ 22 ปี ฐานความผิด “ปลอมและใช้เอกสารทางราชการปลอม” ตรวจยึดของกลาง 1. รถยนต์เก๋งสองตอน ยี่ห้อ MERCEDES BENZ สีขาว จำนวน 1 คัน , 2. แผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 2 แผ่น , 3. กุญแจรถยนต์ 1 ดอก

สืบเนื่องจากวันที่ 15 กันยายน 2566 เวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมออกตรวจในพื้นที่เขตรับผิดชอบเพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดทางอาญาฯ และ พ.ร.บ.ที่มีโทษทางอาญาฯ บริเวณ กม.23-24 (ทล.32) ถนนสายเอเชีย ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พบรถยนต์เก๋งสองตอน ยี่ห้อ MERCEDES BENZ สีขาว ขับขี่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบกับระบบข้อมูลทะเบียนรถยนต์และทะเบียนรถขนส่ง (ฐานข้อมูลกรมการขนส่งทางบก) พบว่ารถยนต์ดังกล่าว มีข้อมูลเป็น รถยนต์นั่งสามตอน ยี่ห้อ TOYOTA HILUX สีเทา จึงเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด เพื่อทำการตรวจสอบ พบนายณัฐดนัยฯ เป็นผู้ขับขี่ ผลการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจขอดูใบอนุญาตขับขี่, เอกสารคู่มือจดทะเบียนและแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปี ผลปรากฏว่า ไม่มีใบอนุญาตขับขี่, ไม่มีเอกสารคู่มือประจำรถแสดงและไม่มีแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปี และมีแผ่นป้ายทะเบียนจำนวน 2 แผ่น (ตามของกลางลำดับที่ 2) ที่ติดมาด้านหน้าและด้านหลังของรถยนต์คันดังกล่าว แสดงขณะเจ้าหน้าที่เรียกตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวผู้ขับขี่และนำรถยนต์คันดังกล่าวมาตรวจสอบที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงเอเชีย จ.พระนครศรีอยุธยา ปรากฏว่า

ของกลางลำดับที่ 2 แผ่นป้ายทะเบียนดังกล่าว จำนวน 2 แผ่น ซึ่งไม่มีลายน้ำด้านหน้าและไม่มีอักษร ขส. ที่ด้านหลังแผ่นป้ายทะเบียนของแผ่นป้ายทะเบียนดังกล่าว จากนั้นนำเลขตัวรถ ไปตรวจสอบกับฐานข้อมูลอีกครั้งฯ ปรากฏว่า เป็นข้อมูลทะเบียนหมายเลขรถคันอื่น สอบถามแล้วนายณัฐดนัยฯ ให้การว่า เมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2566 ได้ซื้อรถยนต์เก๋งสองตอน ยี่ห้อ MERCEDES BENZ สีขาว ติดแผ่นป้าย ด้านหน้าและด้านหลัง โดยมีนายอี๊ฟ (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) เป็นคนแนะนำให้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าว ในราคา 200,000 บาท โดยนัดรับรถที่ซุปเปอร์มาเก็ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นนทบุรี โดยตนนั้นไม่ทราบว่าเป็นเอกสารทางราชการปลอมและรับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวมาจริง จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ เจ้าพนักงานตำรวจจึงแจ้งสิทธิ์ แจ้งข้อกล่าวหา ให้ทราบว่า “ปลอมและใช้เอกสารทางราชการปลอม” จึงได้นำตัวพร้อมตรวจยึดของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ท้องที่เกิดเหตุดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง