หมอกฤตไท อัปเดตการรักษามะเร็ง โรคดุร้ายจนเกิดความคิดจะทนกับความเจ็บปวดนี้ไปทำไม

หมอกฤตไท อัปเดตการรักษามะเร็ง โรคดุร้ายจนเกิดความคิดจะทนกับความเจ็บปวดนี้ไปทำไม

View icon 1.6K
วันที่ 18 ก.ย. 2566 | 10.37 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
"หมอกฤตไท" หมอหนุ่มป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย อัปเดตภาพรวมการรักษา 5 เดือนหลัง โรคดุร้ายและไม่ใจดีเหมือน 6 เดือนแรก ผ่าตัดสมอง ฉายแสงหลายรอบ ได้รับคีโมแล้วเกิดภาวะแทรกซ้อน แต่ยังตายไม่ได้ อยากเห็น “สู้ดิวะ” ได้ตีพิมพ์ แม้ไม่รู้ว่า วันที่หนังสือวางขาย หมอจะยังอยู่ไหม หมอสนแค่ว่า ตัวแทนของความคิดหมอได้เกิดขึ้นมาแล้วจริง ๆ

หมอหนุ่มป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย วานนี้ (17 ก.ย.66) นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล อายุ 28 ปี เจ้าของเพจ สู้ดิวะ หมอหนุ่มอนาคตไกล ผู้ถ่ายทอดประสบการณ์ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย อัปเดตภาพรวมการรักษาผ่านเพจสู้ดิวะ โดยข้อความตอนหนึ่งระบุว่า ผม “หมอไท” คนเดิม เพิ่มเติมคือร่างกายที่ผ่านอะไรหนักหน่วงมาเยอะพอตัว หมอโพสต์ลงเพจนี้ครั้งสุดท้ายคือช่วงเดือนเมษายนปีนี้ เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็ถือว่าเป็นเวลากว่า 5 เดือนแล้ว ที่หมอหายไปจากวงการ

หมอกฤตไท ได้สรุปในภาพรวม 5 เดือนที่ผ่านมา แบบเท่าที่นึกออกเร็วๆ ว่า หมอได้รับการผ่าตัดสมอง ได้รับการฉายแสงที่สมองและหลัง (ฉายแสงหลายรอบ) หมอได้รับคีโมแล้วเกิดภาวะแทรกซ้อน ได้รับยาสเตียรอยด์ปริมาณมากและเป็นเวลานาน และมีลุ้นว่าจะเป็นโรคต่อมหมวกไตทำงานบกพร่องเพิ่มอีกโรค และหมอไทก็เจอก้อนใหม่ขนาดใหญ่เสียด้วย

“โชคดีที่เรื่องอาการเองจะเด่นสุด ที่เรื่องอภิมหาปวด ถึงยังงั้นร่างกายผมก็ไม่สามารถเล่นบาสได้แล้ว ทุกวันนี้ผมกินยาวันละประมาณ 20 เม็ด เช้าก่อนอาหาร เช้าหลังอาหาร กลางวัน เย็น ก่อนนอน 5 เดือนที่ผ่านมานี้ เป็นช่วงเวลาที่ตัวโรคดุร้ายและไม่ใจดีกับผมเหมือน 6 เดือนแรกเลย โหดร้ายขนาดที่ผมเองเกิดความคิดว่า ผมจะทนกับความเจ็บปวดนี้ไปทำไมนะ” หมอกฤตไท ระบุ

หมอกฤตไท ระบุด้วยว่า ได้ปรึกษากับพี่หมอจิตแพทย์ ได้รับยาต้านซึมเศร้าและยาจิตเวชตัวอื่นๆ โชคดีมาก ที่ผมยังมีวันนี้ ที่มาเขียนโพสต์นี้ให้กับทุกคนอยู่ เพราะสิ่งหนึ่งที่ผมตอบคำถามจิตแพทย์ ว่าอะไรทำให้ผมยังอยากมีชีวิตอยู่ล่ะ? คำตอบคือ “ผมอยากเห็น สู้ดิวะ ได้ตีพิมพ์ ผมตอบอาจารย์ทั้งน้ำตา เพราะผมไม่รู้จริงๆว่า วันที่ ‘สู้ดิวะ’ วางขายตามร้านหนังสือ ผมจะยังอยู่ไหม เอาจริงๆ ผมไม่สนด้วยซ้ำ ผมสนแค่ว่า ตัวแทนของความคิดผมได้เกิดขึ้นมาแล้วจริงๆ

สำหรับความคืบหน้าหนังสือสู้ดิวะ หมอกฤตไท บอกว่า เขียนเสร็จแล้วและเลือกสำนักพิมพ์ของพี่นิ้วกลม (เพราะเป็น FC พี่เขา) ถ้าเอาตามหลักเหมือนส่งวิจัยไปตีพิมพ์นี่เหมือนกับส่งให้ editor โดยตรงเลย ในวงการวิจัย พวกเรารู้กันดีว่าแทบไม่มีการรับโดยไม่แก้ แต่งานนี้ของผม พี่นิ้วกลมบอกว่า “พี่ไม่แก้อะไรเลย เรามาตีพิมพ์กันเถอะ” เอาจริงๆ เรื่องกระบวนการต่างๆ นี้ผมแทบจะยกให้เพื่อนแม็กซ์ของผมจัดการหมดเลย เพราะผมก็มีกระบวนการรักษาร่างกายและลมหายใจผมที่ต้องจัดการเหมือนกัน ไม่น่าเชื่อ ว่าสุดท้ายแล้ว หนังสือ สู้ดิวะ ก็เดินทางมาถึงวันที่มีหนังสือรวมเล่มแบบจับต้องได้ Draft version ออกมาให้ผมและเพื่อนได้ชื่นชมกันเอง

แต่ Final version นั้น ทุกคนจะได้ชื่นชมมัน ทางออนไลน์ 30 กันยายน 2566 ทางเพจ Roundfinger วางขายวันแรก 12-23 ต.ค.66 ที่งานหนังสือ ณ ศูนย์ฯ สิริกิติ์ บูธสนพ. KOOB (H43) และทางหน้าร้านหนังสือทั่วประเทศ ซึ่งหมอกฤตไท ระบุทิ้งท้ายว่า หวังว่าเราจะได้เจอกัน