ข่าวภาคค่ำ - ตำรวจสอบสวนกลาง แถลงรับโอนคดี "กำนันนก" ตั้งทีมสืบสวน 11 หน่วยงาน นำพยานหลักฐานมาตรวจสอบเพิ่ม ก่อนพิจารณาว่าตำรวจในเหตุการณ์ว่าเข้าข่ายความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่
หลังใช้เวลาประชุมอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงสรุปผลการประชุมร่วมกับ 11 หน่วยงาน ในการรับโอนสำนวนคดีการเสียชีวิตของ "สารวัตรแบงค์" และการดำเนินคดีกับตำรวจที่ไปร่วมงานเลี้ยงในวันดังกล่าว ว่าคดีนี้เป็นคดีที่ละเอียดอ่อน มีความซับซ้อน เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ยืนยันไม่ได้เป็นการรื้อคดีใหม่ทั้งหมด แต่จะสืบสวนต่อเนื่องจากตำรวจภูธร ภาค 7 โดยจะนำพยานหลักฐานทั้งหมด โดยเฉพาะภาพวงจรปิดมาพิจารณาอย่างละเอียด เพื่อพิจารณาตามข้อเท็จจริง มีอะไรที่เกิดขึ้นทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ รวมถึงประเด็นข้อกฎหมาย ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ระบุว่าในจำนวนกล้องวงจรปิดทั้งหมด 15 กล้อง มี 1 กล้อง ที่เป็นจุดสำคัญ แต่กล้องหยุดบันทึกภาพตั้งแต่ 10.00 น. จึงสันนิษฐาน 2 ประเด็น คือ เจ้าของบ้านสั่งหยุดเวลาของกล้องไว้ และมีการทำลายพยานหลักฐานหลังเกิดเหตุ ส่วนตัวเชื่อว่ามีคนลบภาพในช่วงเวลาดังกล่าว แต่หากไม่มีภาพวงจรปิดจุดนี้ ก็ยังมีพยานหลักฐานอื่นที่ใช้ในการดำเนินคดีได้
สำหรับกรณีของ พันตำรวจเอก วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ "ผู้กำกับเบิ้ม" ที่เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย ได้รับคำยืนยันจากผู้อยู่ในเหตุการณ์ ว่าได้เข้าไปอุ้ม "สารวัตรแบงค์" ที่บริเวณข้อเท้า ก่อนจะมีคนเข้าไปอุ้มแทน ประกอบกับมีภาพการนำ "สารวัตรแบงค์" ไปส่งโรงพยาบาล จึงอยากให้สังคมให้ความเป็นธรรมด้วย
ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI วันนี้เรียกสอบปากคำพยานชุดแรก 20 บริษัท จากทั้งหมด 58 บริษัท ที่มีรายชื่อในการยื่นขอซื้อซองประมูลโครงการก่อสร้างถนนทางหลวง เมื่อปี 2560 และปี 2564 เพื่อหาสาเหตุที่ไม่ยื่นเสนอราคาประมูล ทำให้บริษัทของ "กำนันนก" เป็นผู้ชนะการประมูล ว่ามีพิรุธข้อสงสัย หรือมีความผิดปกติใดหรือไม่
หลังใช้เวลาสอบปากคำอยู่นานกว่า 3 ชั่วโมง พยานบางส่วนทยอยเดินทางกลับ พร้อมปฏิเสธจะอธิบายรายละเอียด บอกเพียงเป็นตัวแทนบริษัทก่อสร้าง ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูล ไม่รู้จักกับกำนันนก และปฏิเสธที่จะตอบว่า เพราะเหตุใดถึงไม่ได้ยื่นเสนอราคาประมูล
ทั้งนี้ ตลอดทั้งวันมีเพียง 12 บริษัท จาก 20 บริษัท ที่เข้าชี้แจงกับพนักงานสอบสวน และมี 3-4 บริษัท ที่ขอเลื่อนชี้แจง
