เช้านี้ที่หมอชิต - จากกรณีรายการเช้านี้ที่หมอชิต เมื่อวานนี้ นำเสนอข่าวสาวโรงงานสุดแสบขโมยบัตรประชาชนเพื่อนร่วมงานไปออกรถ 7 คัน จนผู้เสียหายไปร้องเพจ สายไหมต้องรอด ให้ช่วยเหลือ เพราะคดีเงียบหาย เมื่อวานนี้ร้านจำหน่ายรถที่ถูกสาวแสบไปขอซื้อรถจำนวน 5 ใน 7 คัน ออกมาชี้แจงว่าไม่เกี่ยวข้องกับผู้ก่อเหตุ ผู้พิจารณาเอกสารขอสินเชื่อซื้อรถคือเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ พร้อมเสนอรางวัลนำจับ 5 หมื่น เพราะตนเองได้รับผลกระทบ
จากข่าวผู้เสียหายหลายรายซึ่งเป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ออกมาร้องว่าถูกเพื่อนร่วมงานสุดแสบชื่อ นางสาวอธิกัญภัค เพชรเศรษฐี อายุ 29 ปีขโมยบัตรประชาชนไปออกรถจักรยานยนต์ถึง 7 คัน จนกระทั่งไฟแนนซ์ส่งจดหมายมาทวงค่างวดกับเจ้าของบัตรตัวจริง เรื่องถึงแดงขึ้นมา
ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวพบกับ นายเอ ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่ ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ชี้แจงว่าทางศูนย์จำหน่ายรถจักรยานยนต์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ก่อเหตุ ศูนย์จำหน่ายเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายรถ ดูแลลูกค้าหลังการขาย แต่การอนุมัติสินเชื่อให้ลูกค้าที่มาซื้อรถ เป็นหน้าที่บริษัทไฟแนนซ์ดำเนินการทั้งหมด เอกสารหลักฐานลูกค้าทางไฟแนนซ์เป็นฝ่ายพิจารณา
ส่วนข่าวที่บอกว่าเซลล์ของทางร้านไปเดินเรื่องปิดยอดเพื่อหนีความผิดก็ไม่ตรงข้อเท็จจริง เพราะเซลล์ดังกล่าวไม่ใช่ตัวแทนของทางร้าน แต่เป็นตัวแทนบริษัทไฟแนนซ์ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทางร้านเสียหายอย่างมาก จึงต้องออกมาชี้แจง
ตัวแทนศูนย์จำหน่ายรถจักรยานยนต์ระบุว่า หากใครมีเบาะแส นางสาวอธิกัญภัค ผู้ก่อเหตุจนนำไปสู่การจับกุมได้ ยินดีมอบเงินรางวัลให้ 5 หมื่นบาท เพราะเรื่องนี้ทำให้เสียหายมาก
ขณะที่เจ้าหน้าที่ของบริษัทสินเชื่อแห่งหนึ่งที่ นางสาวอธิกัญภัค เคยมายื่นขอสินเชื่อซื้อรถจักรยานยนต์ เปิดเผยว่า ตนเองปฏิเสธถึง 3 ครั้ง เพราะตรวจพบว่า รูปหน้าจริงกับบนบัตรประชาชนไม่ตรงกัน จึงไม่สามารถอนุมัติสินเชื้อให้ ต่อมาได้รับแจ้งจากทางศูนย์จำหน่ายรถจักรยานยนต์ว่าเป็นบุคคลต้องสงสัย จึงลงแบล็คลิสต์ว่าห้ามอนุมัติสินเชื่อให้กับบุคคลนี้
ส่วนกลุ่มผู้เสียหาย เมื่อวานนี้เดินทางไปที่ สภ.ปลวกแดง เนื่องจากตำรวจเรียกไปสอบปากคำ โดยผู้เสียหายทุกคนยืนยันว่า บุคคลในรูป คือ น.ส.อธิกัญภัค เพชรเศรษฐี ตัวจริงแน่นอน
น.ส.ปนัดดา เขาเขียว 1 ในผู้เสียหายที่ถูก นางสาวอธิกัญภัค ขโมยบัตรประชาชนไปออกรถ บอกว่าบัตรหายขณะที่วางกระเป๋าบนโต๊ะกินข้าวภายในโรงงาน มารู้ตัว ตอนทางไฟแนนซ์ส่งจดหมายมาทวงค่างวด จึงตรวจสอบพบว่า น.ส.อธิกัญภัค คือผู้ก่อเหตุ พอไปแจ้งความแล้วเรื่องเงียบ จึงไปร้องเพจสายไหมต้องรอดให้ช่วยเหลือ
ส่วน นางสาวสุนิสา บุญภูมิ ผู้ที่มีกรณีเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ดำเนินการปิดค่างวดรถให้ อ้างว่ายอมเจ็บเองอยากให้เรื่อง ไป ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะทำให้เสียเครดิตความน่าเชื่อถือ
ซึ่งผู้เสียหายที่เดินทางมาพบตำรวจ ต่างพอใจที่คดีมีความคืบหน้าหลังเป็นข่าว ทางตำรวจแจ้งว่าหลังจากเรียกสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องครบถ้วนแล้ว ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ นางสาวอธิกัญภัคมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป