วันนี้ (19 ก.ย. 66) เวลา 01.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้งเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นนับสิบยกพวกตีกัน บริเวณปากซอยราษฎร์บูรณะ 36 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่มใหญ่ กำลังก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันอยู่กลางถนน บริเวณปากซอยราษฎร์บูรณะ 36 ถนนราษฎร์บูรณะ แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กทม. โดยวัยรุ่นอีกกลุ่มพร้อมอาวุธมีดประมาณ 5-6 คน ซึ่งกำลังใช้อาวุธมีดรุมฟันรถจักรยานยนต์ของวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่ง จนได้รับความเสียหายไปทั้งหมด 5 คัน และภายในที่เกิดเหตุยังพบกับผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 คน สาเหตุเกิดจากการขับขี่รถจักรยานยนต์พยายามหลบหนีกลุ่มวัยรุ่นคู่อริ จนรถจักรยานยนต์เสียหลักล้มลงกับพื้นถนน แล้วถูกวัยรุ่นคู่อริตามมากระทืบซ้ำ และยังมีการทำลายรถจักรยานยนต์จนแท็งก์น้ำมันเครื่องแตกได้รับความเสียหาย อาสาสมัครกู้ภัยได้นำตัวเยาวชนชายอายุ 13 ปี ส่งโรงพยาบาลสุขสวัสดิ์ เป็นการเร่งด่วนทันที
ส่วนรถจักรยานยนต์ทั้งหมดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกลับไปตรวจสอบที่ สน.ราษฎร์บูรณะ พร้อมกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกทำร้ายอีก 5 คน เพื่อไปสอบถามเพิ่มเติม และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งวัยรุ่นทั้ง 5 คน ยังเป็นผู้เสียหายจากการกระทำของกลุ่มคู่อริดังกล่าวด้วย
จากการสอบถามแม่ของหนึ่งในกลุ่มที่โดนไล่ทำร้าย บอกเล่าว่า ลูกขอออกไปหาแฟนสาวตอนประมาณ 22.00 น. แม่ก็โทรตลอด โทรวิดีโอคอลว่าอยู่ตรงนี้นะ บอกอีกสักพักก็กลับแล้ว แม่ก็กะเวลาโทรอีก แต่ติดต่อไม่ได้เป็นครึ่งชั่วโมง ใจคอเริ่มไม่ดี เพราะปกติไม่เคยเป็นอย่างนี้ จะรับสายตลอด จนกระทั่งโทรกลับมาบอกว่า โดนไล่ฟัน แต่หนีได้ไม่เป็นอะไร ส่วนรถโดนฟันเละ จึงถามว่ามันเรื่องอะไรกัน ลูกบอกว่าไม่รู้จัก ขี่รถกันอยู่ดีๆ ก็มีอีกกลุ่มนึงปาระเบิดใส่ก่อน พอได้ยินเสียงกันก็บิดหนี แล้วก็รถล้ม ลุกกันได้ก็ต่างคนต่างวิ่ง พอหันกลับไปก็เห็นรุมฟันรถกันใหญ่เลย พอถามว่ารู้จักกันไหม ลูกก็บอกว่า ไม่รู้จัก ไม่ได้มองอะไรเลย ได้ยินเสียงคล้ายปืนก็วิ่งกันแล้ว ส่วนเรื่องรถที่โดนฟันก็ต้องดูก่อนว่าจะเอาอย่างไร เพราะโดนกันหลายคัน
ด้านเยาวชนชายอายุ 17 ปี หนึ่งในกลุ่มที่ถูกไล่ทำร้าย บอกเล่าว่า ตนกลับจากอินดี้ กำลังกลับบ้าน ขับขี่รถจักนยานยนต์มากัน 5 คัน พอมาถึงที่เกิดเหตุก็มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งปาระเบิดใส่ พอเสียงดังกลุ่มตนก็ต่างคนต่างรีบขี่หนีกันไป แต่ด้วยความที่รีบรถจึงล้มระเนระนาดกันเป็นแถว ก่อนวิ่งหลบเข้าไปในซอย ระหว่างที่วิ่งก็หันกลับไปมองเห็นกลุ่มที่ไล่ทำร้ายรุมฟันรถกันอยู่ และอีกคนหนึ่งที่วิ่งหนีมาด้วยกันก็โทรหารุ่นน้อง บอกว่าให้ออกมาช่วยหน่อย เพราะกลับไปเอารถไม่ได้ ส่วนรถน้องอีกคนหนึ่งที่ไม่ล้มก็ขี่ต่อไปทางพระปะแดง ซึ่งรู้ตอนหลังว่าไปล้มตัวกระเด็นเข้าไปหน้าบ้านชาวบ้าน ท่อน้ำแตก พอเหตุการณ์สงบลง ตำรวจก็มาและพากันมาที่ สน. ทั้งคนทั้งรถ
ขณะที่ นายพินิจ อายุ 43 ปี บอกว่า ตนขี่รถจักรยานยนต์จะกลับบ้าน โดยตามหลังกลุ่มวัยรุ่นมาพอดี และมาล้มอยู่หน้าบ้านตน ก่อนจะถูกรุมฟัน แต่ก็มีคนมาห้ามกันอยู่ แล้วก็แยกย้ายไป ตนก็มาเห็นว่าตรงจุดที่ฟันกันมีท่อน้ำประปาแตก ตนจึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
