ภูมิใจไทยเดินหน้าผลักดันร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ หลังปลดล็อกจากยาเสพติด มูลค่าตลาดเติบโตขึ้น 2.1 หมื่นล้าน ข้อกล่าวหา “กัญชา” ก่อผลกระทบเชิงลบทางสังคม เป็นการคาดเดาถึงสิ่งที่ยังไม่เกิด
ภูมิใจไทยเดินหน้ากัญชา วันนี้ (20 ก.ย. 66) ที่รัฐสภา นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยสส.พรรคภูมิใจ แถลงข่าวการผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชงฯ โดยยืนยันที่จะติดตามและผลักดันพ.ร.บ.กัญชากัญชง เหมือนเดิม ด้วยเหตุผลว่า กัญชาถูกปลดออกจากยาเสพติดให้โทษแล้ว ซึ่งเป็นการดำเนินการทางการแพทย์และการวิจัยเท่านั้น ไม่มีนโยบายเปิดเสรี นันทนาการ หรือสันทนาการ แม้จะมีการโจมตีและด้อยค่านโยบายกัญชาที่ทำให้ถูกตีตกไปในสมัยรัฐบาลที่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาได้มีกลุ่มบุคคล บิดเบือนทำให้ประชาชนสับสน
“เมื่อไม่นานมานี้ ศาลปกครองได้พิจารณาคำขอของหมอกลุ่มหนึ่ง ที่ยื่นฟ้อง รมว.สธ. สมัยนั้น ซึ่งปลดล็อกกัญชาเพื่อการใช้ประโยชน์ ซึ่งศาลยกคำร้อง เพราะเห็นว่า ผู้ร้องไม่ได้รับความเสียหายจากนโยบาย แต่เมื่ออ่านรายละเอียดจะพบว่าศาล ให้ความเห็นอีกว่า สิ่งที่ผู้ร้องกล่าวหา “กัญชา” ว่าใช้กันอย่างแพร่หลาย เกิดผลกระทบเชิงลบทางสังคม ล้วนแล้วแต่เป็นการคาดเดาถึงสิ่งที่ยังไม่เกิด”
พรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่าจะผลักดันพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ในสมัยนี้ต่อไป โดยจะเป็นไปตามร่างเดิม 94 มาตรา ที่เคยได้มีความเห็นจากทุกพรรคทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล อีกทั้ง ยังเห็นตรงกันกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่จะนำเสนอเรื่องนี้ในรัฐบาลสมัยนี้ด้วย
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าจากข้อมูลวิจัยชี้ว่าเมื่อกัญชาถูกปลดล็อกจากยาเสพติดแล้ว มูลค่าของตลาดกัญชาเติบโตขึ้น 2.1 หมื่นล้านบาท สอดคล้องกับภาคเอกชน เท่าที่ตนได้ทำการสำรวจมามี 21 บริษัท ที่ลงทุนไปแล้วในกัญชา แต่ส่วนของกัญชงที่เป็นตลาดใหญ่กว่า โดยเฉพาะในฝั่งอุตสาหกรรม ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การสกัดสาร CBD มาใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ และแทบจะไม่มีสาร THC อยู่เลยนั้น
“วันนี้ไม่มีโรงงานใดที่สามารถผลิตสาร THC ได้เลยแม้แต่โรงงานเดียว เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายให้เปิด เว้นแต่จะทำร่วมกับภาครัฐ โดยเราได้แยกกัญชงออก เพื่อไม่ให้มีการสกัดสาร THC เกิน 0.02% เป็นจุดแข็งที่ฝ่ายนิติบัญญัติมีความรอบคอบพอ ที่จะควบคุมการออกกฎหมาย และไม่ทำให้กัญชาหลุดพ้นออกไปจนเกิดปัญหา” นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าว