ร้องต่อเนื่อง! เรืองไกร จี้ ก.ล.ต. สอบ บ.ย่อย แสนสิริ ซื้อที่ดิน ลงลึก เศรษฐา ขณะเป็น กก.ผจก.ใหญ่ มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
วันนี้ ( 21 ก.ย.66) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผย ว่า ในฐานะผู้ถือหุ้นที่เคยทำหนังสือถึง บมจ.แสนสิริ เพื่อขอข้อมูลกรณีบริษัท พัฒนสิริ เอสเตท จำกัด (ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.แสนสิริ) เกี่ยวกับการซื้อที่ดินจากบริษัท ศิวะ แลนด์ จำกัด เพื่อมาตรวจสอบว่า เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือไม่ โดยส่งหนังสือไปทางไปรษณีย์ EMS ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. 2566 แต่จนถึงวันนี้ยังไม่รับข้อมูลตามที่ขอไปแต่อย่างใด
นายเรืองไกร กล่าวว่า เมื่อตรวจสอบรายงานประจำปี 2559 ของ บมจ.แสนสิริ ก็ระบุไว้ว่า ในช่วงดังกล่าว บมจ.แสนสิริ มี นายเศรษฐา ทวีสิน เป็น กรรมการผู้จัดการใหญ่ และในรายงานดังกล่าว หน้า 138 ก็ระบุว่าแสนสิริมีนโยบายการแจ้งเบาะแสการกระทำ กรณีที่ผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่างๆ หรือบุคคลใด มีข้อสงสัย หรือพบเห็นการกระทำที่สงสัยว่ามีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ทุจริตคอร์รัปชั่น หรือต้องการร้องเรียนการถูกละเมิด สามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียน เพื่อให้บริษัทสามารถสืบสวนและดำเนินการอย่างเหมาะสมได้
นายเรืองไกร กล่าวว่า แต่เมื่อหนังสือที่ตนถามไป ยังไม่ได้คำตอบใดๆ กลับมา จึงทำให้สงสัยว่า ทำไม จึงไม่ให้ข้อมูลตามที่ขอไป ทั้งที่บอกว่า สามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียน ทำให้ตนในฐานะผู้ถือหุ้นคนหนึ่งเกิดความสงสัย จึงต้องมายื่นหนังสือถึง ก.ล.ต. เพื่อตรวจสอบต่อไป ดังนี้
ข้อ 1. เว็บไซต์ ตลท. ได้เผยแพร่คำแถลงการณ์ หัวข้อ แสนสิริ ยืนยันซื้อที่ดินถนนสุขุมวิท ติดปากซอย 12 ถูกต้อง โดยมีข้อความดังนี้
“ตามที่ได้มีผู้นำเสนอข้อมูลบิดเบือนพาดพิง บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับวิธีการจัดซื้อที่ดินของแสนสิริว่า ดำเนินการไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อน บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า
- แสนสิริ และบริษัทย่อยของแสนสิริ กรรมการและผู้บริหารของบริษัทดังกล่าว ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับบริษัท ศิวะ แลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าว
- แสนสิริ ไม่เคยรู้จักหรือทำธุรกรรมใดๆ กับ บริษัท Crown City Limited
- แสนสิริ ซื้อที่ดินติดถนนสุขุมวิท (บริเวณปากซอยสุขุมวิท 12) ในปี 2559 ทั้งหมดจำนวน 890.5 ตารางวา ในราคาเฉลี่ย 1,950,000 บาทต่อตารางวา ซึ่งผู้ขายเป็นผู้รับผิดชอบภาษีอากร ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด ซึ่งราคาดังกล่าวเป็นราคาที่เหมาะสมเทียบเคียงกับราคาตลาด (ตามตารางแนบ)
- แสนสิริ ไม่เคยมีการโอนเงินไปต่างประเทศเพื่อซื้อขายที่ดิน
- แสนสิริ ชำระราคาที่ดินแปลงดังกล่าวทั้งหมด เป็นเงินจำนวน 1,734,525,000 บาท (หนึ่งพันเจ็ดร้อยสามสิบสี่ล้านห้าแสนสองหมื่นห้าพันบาทถ้วน) โดยจ่ายเป็นเช็คตามคำสั่งของผู้ขาย
แสนสิริ ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใส และตรวจสอบได้ จึงขอชี้แจงมา ณ ที่นี้”
ข้อ 2. เนื่องจากกรณีตามคำแถลงการณ์ดังกล่าว เมื่อนำไปตรวจสอบเปรียบเทียบกับพยานหลักฐานอื่น มีเหตุอันควรสงสัยและขอให้ แสนสิริ ชี้แจง ดังนี้
- ทำไม แสนสิริแถลงข่าวว่าซื้อที่ดินในราคา 1,734,525,000 บาท ทั้งที่ สัญญาซื้อขายที่ดินระบุว่า ผู้ขายยอมขายที่ดินแปลงที่กล่าวข้างบนนี้ทั้งแปลงแก่ผู้ซื้อเป็นราคา 499,460,000 บาท ซึ่งแตกต่างกันประมาณ 1,235,065,000 บาท
- ทำไม เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2559 แสนสิริ จึงนำที่ดินแปลงดังกล่าวไปจำนองได้ในราคา 2,556 ล้านบาท
- ทำไม ในสัญญาซื้อขายที่ดิน เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2559 ข้อ 3. ระบุว่า ขายที่ดิน ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง
- ทำไม ในสัญญาจำนองที่ดิน ข้อ 4. จึงมีการระบุว่า สิ่งปลูกสร้างในที่ดิน...
ข้อ 3. เพื่อให้การซื้อขายที่ดินระหว่างบริษัท ศิวะแลนด์ จำกัด กับ บริษัท พัฒนสิริ เอสเตท จำกัด ตามคำแถลงการณ์ดังกล่าว ตรวจสอบความถูกต้องได้ จึงขอให้คณะกรรมการ ก.ล.ต. ตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับการลงบัญชีซื้อที่ดินดังกล่าว สำเนาเช็คที่สั่งจ่ายตามคำสั่งของผู้ขายว่ามีกี่ใบ สั่งจ่ายใครบ้าง ผู้ขายสั่งว่าอย่างไร คำสั่งของผู้ขายมีการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือไม่ และส่วนต่างที่มีจำนวนประมาณ 1,235,065,000 บาท คือค่าอะไร ทำไม ตัวเลขตามบัญชีจึงไม่ตรงกับสำเนาสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินแปลงดังกล่าว และขอให้ ก.ล.ต. ตรวจสอบว่า แสนสิริ ได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใส และตรวจสอบได้ ตามคำแถลงการณ์ดังกล่าว จริง หรือไม่
ข้อ 4. ในช่วงการซื้อขายที่ดินดังกล่าวเมื่อปี 2559 ซึ่งมีความแตกต่างระหว่างตัวเลขในสัญญาซื้อขายที่ดิน ตัวเลขการลงบัญชี ตัวเลขการจำนอง นั้น นายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ในขั้นตอนใด
ข้อ 5. เนื่องจากตามหนังสือ ก.ล.ต.ที่ สส. 108/2566 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เรื่อง การร้องเรียนเกี่ยวกับ บมจ.แสนสิริ นั้น มีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน จึงขอให้ ก.ล.ต. แจ้งผลการตรวจสอบตามหนังสือดังกล่าว ให้ข้าฯ ทราบด้วยโดยเร็ว ก่อนที่จะมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ในคราวถัดไปด้วย
นายเรืองไกร สรุปว่า ตนในฐานะผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง รู้สึกผิดหวัง ขุ่นใจเล็กน้อย ที่ไม่ได้รับข้อมูลซึ่งควรเปิดเผยได้ ทำให้สงสัยตามมาว่า เรื่องที่มีคนกล่าวหาแสนสิริก่อนหน้านี้ อาจมีมูลอยู่บ้าง ในวันนี้ จึงต้องมายื่นหนังสือเพื่อขอให้คณะกรรมการ ก.ล.ต. ตรวจสอบบริษัท พัฒนสิริ เอสเตท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของแสนสิริ ว่ามีการซื้อที่ดินจากบริษัท ศิวะ แลนด์ จำกัด เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือไม่ การซื้อที่ดินดังกล่าวมีการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน หรือไม่ การซื้อที่ดินดังกล่าวมีการหักภาษีโดยถูกต้องตามประมวลรัษฎากร หรือไม่ การซื้อที่ดินดังกล่าวมีการบันทึกบัญชี ถูกต้องหรือไม่ และ คณะกรรมการของ บริษัท แสนสิริ จำกัด และ/หรือ บริษัท พัฒนสิริ เอสเตท จำกัด รวมทั้ง นายเศรษฐา ทวีสิน มีการรับรู้ธุรกรรมการซื้อที่ดินดังกล่าว ที่เป็นไปโดยความซื่อสัตย์สุจริต หรือไม่