จ่อออกหมายจับเย็นนี้ ไอ้เอ็ม-เจษฎา  เบื้องต้นเข้าข่าย 4 ข้อหา

จ่อออกหมายจับเย็นนี้ ไอ้เอ็ม-เจษฎา เบื้องต้นเข้าข่าย 4 ข้อหา

View icon 149
วันที่ 22 ก.ย. 2566 | 13.38 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (22 ก.ย. 66) พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. ,พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบช.สส. กองบัญชาการตำรวจนครบาล และพลตำรวจตรีอรรถพล อนุสิทธิ์ ผบช.น. 2 เปิดเผยภายหลังสอบปากคำและพูดคุยเบื้องต้นกับญาติของน้องน้ำตาล เด็กหญิงวัย 4 ขวบ ที่มาจากกำแพงเพชร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ได้ลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า เมื่อช่วงเช้าพลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้แจ้งให้รับทราบแล้วว่า ทางนิติเวช รพ.ตำรวจ ได้แจ้งผลตรวจ DNA ของ 2 ศพทารกที่พบในพื้นที่ สน.บางซื่อ เมื่อปี 2556 และ 2557 ซึ่งตรงกับนายส่องศักดิ์ และนางสาวเจษฎา นั่นหมายความชัดเจนแล้วว่า ทั้งคู่มีความสัมพันธ์เป็นพ่อและแม่ที่แท้จริง โดยจากการสอบปากคำตัวนางสาวเจษฎาตลอด 2 วัน ก็สอดคล้องกับคำรับสารภาพที่ตรงกันว่า ได้ไปทิ้งศพเด็กทั้ง 2 คน ที่เป็นลูกของพวกเขาจริง

โดยทางตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่าง รวมถึงผลตรวจ DNA ที่จะออกมาอย่างเป็นทางการในช่วงบ่ายวันนี้ ก่อนพิจารณาออกหมายจับนางสาวเจษฎาภายในวันนี้ ในฐานความผิดเบื้องต้น 4 ข้อหา ได้แก่ ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย / ร่วมกันทำลายพยานหลักฐาน / ช่วยกันซ่อนเร้นอำพรางศพ และทำลายศพที่ต้องส่งชันสูตรพลิกศพ ซึ่งทั้งหมดจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงให้รอบคอบก่อน พร้อมยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นนางสาวเจษฎาให้การสอดคล้องและเป็นประโยชน์กับข้อหาที่เข้าข่ายความผิด

ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของ 2 ทารก ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สน.บางซื่อ ที่พบว่าเป็นลูกของนายส่องศักดิ์และนางสาวเจษฎานั้น ผลชันสูตรแพทย์ระบุว่า พบกะโหลกศีรษะแตก มีรอยคลั่งของเลือด และระบบหายใจล้มเหลว ซึ่งผลชันสูตรออกมาชัดเจนว่า “เด็กถูกทำร้ายจนเสียชีวิต”

ขณะเดียวกันจากการสอบปากคำนายส่องศักดิ์ เจ้าตัวก็ยังให้การเช่นเดิมว่า ช่วงมีเพศสัมพันธ์ ไม่ได้ป้องกัน และพอมีลูก ก็ไม่ชอบเสียงร้องของเด็ก ทำให้เกิดอารมณ์โมโหฉุนเฉียว และก้าวร้าวไปลงกับเด็ก

ขณะที่ประเด็นของน้องน้ำตาล เด็กหญิงวัย 4 ขวบ ที่กัน จอมพลังได้ไปช่วยไว้ตั้งแต่ 10 กันยายนที่ผ่านมานั้น / ญาติที่เลี้ยงเด็ก ได้เข้ามายืนยันแล้ว ว่า ตอนแรกคลอด สภาพร่างกายของน้องน้ำตาลเป็นปกติดี สมบูรณณ์ทุกอย่าง ประกอบกับจากข้อมูลของโรงพยาบาลที่น้องเกิด ก็สอดคล้องกัน สมบูรณ์แข็งแรงดีตลอดจนถึงปี 2555 ที่นางสาวเจษฎาเป็นผู้เลี้ยง กระทั่งนายส่งศักดิ์ ให้การว่า เด็กมีอาการปากแหว่ง อันเนื่องมาจากเป็นเชื้อรา นางสาวเจษฎาจึงต้องการทำการรักษาโดยเอายาม่วงไปทาให้ โดยขณะนี้อยู่ในความคุ้มครองของบ้านพักเด็กและครอบครัว กทม.

เมื่อถามถึงเรื่องการเปิดรับบริจาคของน้องน้ำตาล จะเข้าข่าวการค้ามนุษย์หรือไม่ / รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ในภาพรวมอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและคัดแยกเหยื่อของ พม. ก่อน แต่ในทางรูปคดี พบว่าเด็กคล้ายจะถูกทำร้าย และหนำซ้ำทั้งคู่ยังร่วมกันเอาเด็กมาหากินอีก ส่วนตัวรู้สึกสะเทือนใจมาก เพราะเด็กเหมือนตกนรกทั้งเป็น แต่ในเบื้องต้นได้รับแจ้งข่าวดีจากคุณกัน จอมพลัง ว่าจะพยายามช่วยเหลือรักษาน้อง และคาดว่าจะรักษาได้ โดยการกระทำลักษณะนี้ เป็นการเรียกรับผลประโยชน์จากเด็กพิการชัดเจน และเข้าข่ายเรื่องค้ามนุษย์อยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการรวบรวมหลักฐาน

ส่วนเงินที่เปิดรับบริจาคนั้น จากการตรวจสอบเงินในบัญชี พบว่าตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา จากทั้งหมด 17 รายการ มีเงินอยู่ประมาณ 3,500 กว่าบาท โดยมีเงินเข้าตั้งแต่ 7 บาท จนถึง 1,500 บาท ซึ่งเงินทั้งหมดทั้งคู่เอามาใช้เลี้ยงดูชีวิตตัวเองและครอบครัว

ส่วนการค้นห้องพักที่อพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง ภายในซอยพหลโยธิน 48 แยก 3 วันนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ย้ำว่ามีความสำคัญ เนื่องจากพบว่าหลังจากนายส่องศักดิ์และนางสาวสุนัน ทำการเอาศพลูกไปโบกปูนที่จังหวัดกำแพงเพชรแล้ว ได้หนีออกจากห้องพักที่เคยอยู่ คือ อพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่ง ภายในซอยพหลโยธิน 65 ไปอยู่ที่อพาร์ทเมนต์ดังกล่าว ซอยพหลโยธิน 48 แยก 3 เช่าเป็นรายเดือน ถึงต้องไปหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะวัตถุอุปกรณ์หลักฐานที่ใช้ทำร้ายน้อง

โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางตำรวจได้ส่งตัวนางสาวเจษฎาไปตรวจร่างกาย เนื่องจากคำให้การพบว่า เจ้าตัวอ้างถูกนายส่งศักดิ์ทำร้าย ซึ่งต้องไปตรวจให้ชัดเจนว่า ใช้อะไรทำร้ายหรือทุบตีหรือมีการใช้เหล็กไฟหรือไม่ ซึ่งจะต้องรอผลนิติเวช แต่เบื้องต้นจากการดูสภาพรอยแผลที่แขน คาดว่าเป็นแผลที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้ และเป็นบาดแผลที่คล้ายคลึงกับเด็กที่ถูกทำร้าย

เมื่อพยายามถามว่าพฤติกรรมของนายส่องศักดิ์ เรียกได้ว่าเค้าขายเป็นฆาตกรต่อเนื่องหรือไม่ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตอบว่า ยังพูดไม่ได้และต้องขอรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน จึงจะสามารถตอบได้ว่าแต่ละครั้งที่เกิดขึ้นต่อเนื่องหรือไม่

นอกจากนี้ประเด็นภรรยาคนที่ 5 ของนายส่องศักดิ์ ทางพล.ต.ต.ธีรเดช บอกว่า ทั้งคู่ “ไม่มีลูกด้วยกัน” ซึ่งจากการสอบปากคำ พบว่า เขาเลิกกันไปนานแล้ว และไม่ต้องการให้มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ทางตำรวจก็ได้ขอความร่วมมือทำการสอบปากคำเจ้าตัวไปแล้ว เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีและรู้ประวัติพฤติกรรมของนายส่งศักดิ์อย่างดี

ขณะเดียวกันจากการกระจายชุดสืบสวนไปยังจังหวัดตรังและจังหวัดกำแพงเพชร พบข้อมูลที่เป็นประโยชน์และสอดคล้องกับชุดสืบสวนหลักที่ทำอยูากรุงเทพมหานครมาก โดยย้ำว่าเราจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากอดีตภรรยาทุกคน เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสำคัญ และแนวโน้มความสัมพันธ์กับนายส่องศักดิ์ ไปในทางเดียวกันทั้งหมด โดยยืนยันว่า นายส่องศักดิ์ มีพฤติกรรมก้าวร้าว และบางคนที่มีลูกด้วยกัน นายส่องศักดิ์ จะไม่ดูแลและไม่ส่งเสียเลี้ยงดู รวมถึงยังมีสภาพจิตปกติด้วย โดยคนทำมาหากินหลักจะเป็นเมีย ส่วนนายส่องศักดิ์ จะอยู่บ้านรอรับเงิน

อย่างไรก็ตามในส่วนของผลตรวจกระดูก DNA ที่เจอในพื้นที่สายไหม ยังต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ เบื้องต้น 5 วันจะทราบผล คาดว่าอย่างช้าสุด คือ 22 กันยายนนี้

ส่วนเบื้องต้นผู้กระทำความผิดยังมีเท่านี้ แต่จากการสืบสวนสอบสวนหากพบบุคคลที่ช่วยอำพรางหรือช่วยเหลือในการกระทำความผิด ก็จะดำเนินคดีด้วยเช่นกัน