แนวโน้มราคาน้ำมันยังผันผวน ขยับขึ้นต่อเนื่องทั้งน้ำมันดิบ และน้ำมันสำเร็จรูป ขณะที่ต้นทุนราคาน้ำมันเบนซินทั้ง 2 ชนิดขยับขึ้นสูง 0.23 บาท/ลิตร ดีเซลต้นทุนขึ้น 0.36 บาท/ลิตร
วันนี้ (25 ส.ค.66) นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกยังพบว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มผันผวน โดยราคาน้ำมันตลาดโลก ช่วงวันที่ 4 - 10 ก.ย.66 ราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์ เท็กซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 90.37 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และ 87.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 3.69 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และ 4.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
สาเหตุราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวสูง
ตลาดกังวลต่ออุปทานตึงตัว หลังซาอุดีอาระเบียขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมที่ 1.0 ล้านบาร์เรล/วัน จนถึงสิ้นปี ขณะที่รัสเซียปรับลดการส่งออกลง 0.3 ล้านบาร์เรล/วัน จนถึงสิ้นปีเช่นกัน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นท่ามกลางความกังวลต่ออุปทานจากการปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินของโรงกลั่นในสหรัฐฯ ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 กันยายน 2566 ปรับลดลง 6.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 416.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งปรับลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.6 ล้านบาร์เรล
ราคากลางน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดภูมิภาคเอเชีย
ราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95, 92 และ 91 (Non-Oxy) เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 109.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล 103.35 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และ 106.33 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทรงตัวจากสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณสำรองเชิงพาณิชย์ในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 กันยายน 2566 ลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 214.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่อุปสงค์ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.25 ล้านบาร์เรล/วัน มาอยู่ที่ 9.32 ล้านบาร์เรล/วัน ด้าน International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรอง Light Distillates เชิงพาณิชย์ในสิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 กันยายน 2566 เพิ่มขึ้น 0.91 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 13.84 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (10 PPM) เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ121.78 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.46 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยตลาดคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันดีเซลทั่วโลกอาจปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 500,000 บาร์เรล/วัน ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ จากฐานตัวเลขอุปสงค์ของกลุ่มประเทศซีกโลกเหนือและจีน ซึ่งอยู่ในระดับต่ำเมื่อปีที่แล้ว ซึ่ง Platts ได้ประเมินปริมาณส่งออกน้ำมันดีเซลของรัสเซียจากท่าทางตะวันตกในทะเลบอลติกและทะเลดำ เดือน ก.ย. 66 ลดลง 130,000 บาร์เรล/วัน มาอยู่ที่ 470,000 บาร์เรล/วัน จากโรงกลั่นขนาดใหญ่ 12 แห่ง ในประเทศปิดซ่อมบำรุง
สำหรับค่าเงินบาทของไทยอ่อนค่าขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ระดับเฉลี่ย 35.5853 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ต้นทุนน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 0.23 บาท/ลิตร และต้นทุนน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 0.36 บาท/ลิตร ส่งผลต่อค่าการตลาดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของน้ำมันกลุ่มเบนซิน และน้ำมันดีเซล อยู่ที่ระดับ 2.28 บาท/ลิตร
ทั้งนี้ ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 17 กันยายน 2566 กองทุนน้ำมันฯ มีสินทรัพย์รวม 41,410 ล้านบาท หนี้สินกองทุนฯ 103,051 ล้านบาท แบ่งเป็นติดลบจากบัญชีน้ำมัน 16,902 ล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG 44,739 ล้านบาท
“นอกจากนี้ สนพ. ยังได้ติดสถานการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติเหลว ในตลาดจร หรือ Spot LNG ช่วงระหว่างวันที่ 4 - 8 กันยายน 2566 พบว่า ราคา Spot LNG เฉลี่ยในสัปดาห์นี้ ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน 0.202 เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู มาอยู่ที่ระดับ 12.961 เหรียญสหรัฐฯ/ล้านบีทียู เนื่องจากความต้องการ LNG ในตลาดยังคงซบเซา โดยเฉพาะผู้ซื้อรายใหญ่ในภูมิภาคเอเชียเหนือ ที่ปริมาณ LNG Inventory คงเหลือยังคงสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา แม้ความต้องการใช้จะเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติใน storage ของยุโรป อยู่ที่ร้อยละ 93.7 ของความจุ ซึ่งสูงกว่าข้อกำหนดของ European Commissions ที่กำหนดให้ประเทศในยุโรปต้องสำรองก๊าซธรรมชาติอย่างน้อยร้อยละ 90 ของความจุ ภายในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566” นายวัฒนพงษ์ กล่าว