ทำความรู้จัก "บูม-กษิดิศ สำเร็จ" นักเทนนิสไทยมือ 636 ของโลก ที่ถูกนักเทนนิสเกาหลีใต้เมินจับมือ เยาวชนอายุ 22 ปี ผู้มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ไม่ท้อถอยกับอุปสรรค และพร้อมสานฝันพ่อ อดีตนักเทนนิสทีมชาติไทย
บูม กษิดิศ วานนี้ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม สามารถล้มเต็ง 4 ของรายการแข่งขันเทนนิส ประเภทชายเดี่ยว ทะลุเข้ารอบ 16 คน นอกจากผลการแข่งขัน บูม กษิดิศ ยังถูกพูดชื่นชมในสปิริต และความมีน้ำใจนักกีฬา เนื่องจากการแข่งขันวานนี้ (25 ก.ย.66) หลังจากเอาชนะ ควอนซุนวู นักเทนนิสเกาหลีใต้ เกิดตบะแตก แสดงท่าทีไม่เหมาะสม ไม่ยอมจับมือกับ บูม กษิดิศ แต่ บูม ยังคง หันไหว้ขอบคุณผู้ชมและเดินออกจากสนามไป
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : นักเทนนิสเกาหลีใต้ จับมือขอโทษไทย หลังฉุนขาดพ่ายไทย
ช่วงเวลาแห่งความสำเร็จ ในสนามกับเต็มไปด้วยอารมณ์ของคู่แข่ง วันนี้ทีมข่าวออนไลน์ Ch7HD News จึงจะพาทุกคนไปรู้จักกับ เยาวชนไทยผู้นำชัยชนะแรกของกีฬาเทนนิส ในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ณ เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน มาฝากพี่น้องชาวไทย
บูม กษิดิศ สำเร็จ นักหวดอายุ 22 ปี มือ 636 ของโลก ลงสนามแข่งขันเป็นคนแรกของทีมเทนนิสไทย ประเภทชายเดี่ยว รอบแรก (สาย 64 คน) กษิดิศ สำเร็จ พบกับ เอสซ่า คาบาซาร์ด นีกกีฬาเทนนิสคูเวต มือ 1,958 ของโลก ผลการแข่งขัน บูม กษิดิศ เอาชนะได้ 2-0 เซต ผ่านเข้ารอบ 32 คน สุดท้าย ไปพบกับ ควอน ซุนวู จากเกาหลีใต้ มือวาง 4 และมือ 112 ของโลก ถึงแม้ บูม กษิดิศ จะเป็นรองแต่ก็พยายามสู้เต็มที่ จนสามารถเอาชนะได้ 2-1 เซต ผ่านเข้ารอบสาม หรือ 16 คนสุดท้าย ไปพบ คูโมยัน ซุลตานอฟ จากอุซเบกิสถาน มือวาง 13 และมือ 420 ของโลก
บูม กษิดิศ สำเร็จ เป็นลูกชายของ วิทยา สำเร็จ อดีตนักกีฬาทีมชาติหลายสมัย ที่คว้าชัยมามากมายทั้งระดับประเทศ ระดับชาติ นานาชาติ ผ่านทั้งซีเกมส์ เอเชียเกมส์
บูม กษิดิศ กำลังเดินตามรอยเท้าพ่อจับแร็กเกต ชิงแชมป์ โดยก้าวเข้าสู่การเป็นนักเทนนิสทีมชาติชุดใหญ่ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปี 2561 และ ปี 2562 ได้ร่วมภารกิจร่วมทีมสู้ศึกชิงแชมป์โลก ประเภททีมชาย เดวิสคัพ และ ศึก ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ จากนั้น ปี 2563 ได้คว้าแชมป์ชายเดี่ยว เทนนิสเพื่อความชนะเลิศแห่งประเทศไทย สำเร็จไปครั้งแรกในชีวิต
สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ - LTAT ได้เผยแพร่ บทสัมภาษณ์ของ บูม กษิดิศ ที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อปี พ.ศ.2564 ซึ่งบอกเอาไว้ว่า
“ผมกับพ่อมีความฝันเดียวกันครับ ผมฝันที่จะไปเล่นในโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งพ่อก็อยากเห็นผมไปในจุดนั้น แต่ถ้าจะไปตรงนั้นผมก็ต้องทำอันดับโลกให้เข้าท็อป 100 ให้ได้ ผมวางเป้าหมายในระยะใกล้คือ โอลิมปิกเกมส์ ที่ฝรั่งเศส ผมมีเวลาในการทำอันดับโลกให้ตัวเอง 3 ปี แน่นอนผมยังไม่รู้ว่าจะทำได้อย่างที่วางแผนไว้หรือไม่ แต่สิ่งเดียวที่ผมรู้ก็คือ ผมมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และผมจะอดทนต่องานที่หนักการแข่งขันที่เต็มไปด้วยความกดดัน ผมจะไม่ท้อถอยกับอุปสรรค ผมจะก้าวไปตามเส้นทางที่วางไว้และทำฝันให้เป็นจริงให้ได้”