บิ๊กโจ๊ก ร้องศาลฯ ไต่สวนปมออกหมายค้นบ้าน

View icon 46
วันที่ 27 ก.ย. 2566 | 07.01 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - แน่นอนว่าการถูกค้นบ้านพัก บิ๊กโจ๊ก เพื่อขยายผลจับผู้ต้องหาคดีเว็บฯ พนัน ที่ไปพบว่ามีลูกน้องของ บิ๊กโจ๊ก 8 นาย เอี่ยวด้วยนั้น ก็ทำให้ บิ๊กโจ๊ก เสียรังวัด ทั้งชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือถูกลดทอน เมื่อวานนี้ บิ๊กโจ๊ก ไปยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนปมตรวจค้นบ้านพักโดยมิชอบ และยืนยัน ไม่เกี่ยวข้องเว็บฯ พนันออนไลน์ สามารถชี้แจงเส้นทางการเงินได้ทุกประเด็น

บิ๊กโจ๊ก ร้องศาลฯ ไต่สวนปมออกหมายค้นบ้าน
เรียกได้ว่าตลอดทั้งวันของเมื่อวาน กระแส พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่แผ่ว เริ่มจากไปที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาไต่สวน กรณีเจ้าหน้าที่ขอหมายค้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เนื่องจาก บิ๊กโจ๊ก มองว่าเป็นการปกปิดข้อเท็จจริงต่อศาล เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นบ้านที่ตนพักอาศัย แต่ผู้ที่ไปขอหมายไม่ได้บอกศาล และแม้ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ของบ้านจะเป็นคนอื่น แต่ก็เป็นญาติตนเอง การที่ตนถูกออกหมายค้นบ้าน และถูกนำกำลังยกมาเข้าค้นเป็นโขยง ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง

นอกจากนี้ ลูกน้องที่ถูกออกหมายจับตามข้อกล่าวหาว่ากระทำผิด มีตำแหน่งหน้าที่การงาน มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และยังคงมาปฏิบัติหน้าที่ เหตุใดจึงไม่ออกหมายเรียกมาสอบสวนก่อน และการเข้าค้นบ้านพักนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้รายงานข้อเท็จจริงต่อศาลหรือไม่ เนื่องจากในหมายระบุเพียงบ้านเลขที่ ไม่ระบุชื่อตัวบุคคล จึงขอให้มีการไต่สวนเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เป็นที่เคลือบแคลงถึงการบังคับใช้กฎหมาย

บิ๊กโจ๊ก เคลียร์ข้อสงสัยรับรู้จัก สนิทสนม เฮียแต๋ม
จากนั้นช่วงเย็น บิ๊กโจ๊ก ไปที่สโมสรตำรวจ เพื่อพบกลุ่มสมาคมชาวปักษ์ใต้ที่เดินทางมาให้กำลังใจ เขาเปิดใจอีกครั้งในหลายประเด็นที่สังคมคาใจสงสัย อย่างเรื่องบ้านทั้ง 5 หลัง เป็นของ "เฮียแต๋ม" นักธุรกิจชาวอุดรธานี โดยตนนับถือเป็นญาติผู้ใหญ่ที่ให้ความเคารพ สนิทสนมผูกพันกันมากว่า 10 ปี โดย เฮียแต๋ม เป็นผู้รับผิดชอบจ่ายค่าส่วนกลาง เนื่องจากมีชื่อเป็นเจ้าของบ้าน ทั้งนี้ บิ๊กโจ๊ก ยืนยันว่า เฮียแต๋ม เป็นนักธุรกิจ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มาปีละ 700-800 ล้านบาท เป็นเงินบริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องกับเว็บฯ พนัน

เช่นเดียวกับตนเองก็มีเงิน ไม่เคยแตะเงินสกปรก เฉพาะมรดกที่มีก็ร่วมพันล้านบาทแล้ว ไม่จำเป็นต้องยุ่งเกี่ยวกับเว็บฯ พนัน แถมที่ผ่านมาก็ออกเงินส่วนตัวให้ลูกน้องใช้จ่ายทำคดีเดือนละหลายแสนบาท รวมกับงบลับในการทำคดี ซึ่งเรื่องนี้ ผบ.ตร. รู้ดี ไม่เช่นนั้นการทำคดีต่าง ๆ สำเร็จได้อย่างไร และทิ้งท้ายประโยคเด็ดไว้ด้วยว่า "ผมโดนมาเยอะแล้ว เราถูกหล่อหลอมให้อดทนกับความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก และไม่ได้มักมากในลาภยศ"

ส่วนประเด็นลูกน้องทั้ง 8 คน ถูกออกหมายจับ ขณะนี้ทราบว่าได้ยื่นประกันครบทั้ง 8 คนแล้ว อยู่ระหว่างรอศาลปล่อยตัว ส่วนกรณีที่ลูกน้องไปยุ่งเกี่ยวกับเว็บฯ พนันออนไลน์หรือไม่นั้น ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับตน หากกระทำผิดจริงก็ต้องรับผิดในสิ่งที่ทำ

เรื่องการบุกค้นบ้าน บิ๊กโจ๊ก และกล่าวหานายตำรวจครั้งนี้ ร้อนไปถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเมื่อวานก็ตั้งคณะกรรมการสอบสวน 3 คน ประกอบด้วย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการ ส่วน นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด กรรมการ และ พลตำรวจเอก วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็น กรรมการและเลขานุการ โดยตั้งกรอบการทำงานไว้ 15 วัน โดยยอมรับว่าหนักใจ เพราะเป็นเรื่องที่ใหญ่ที่สาธารณชนจับตาดูอยู่

ขณะที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเองก็ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนคู่ขนาน โดย ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ พลตำรวจเอก วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย ส่วนตำรวจทั้ง 8 นาย ยังอยู่ระหว่างรอพนักงานสอบสวนจัดทำรายงานขึ้นมา จากนั้นถึงจะพิจารณาว่าจะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนหรือไม่

ทั้งนี้ ยืนยันว่า ผบ.ตร. ยังไม่ได้เรียก พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ เข้าพบเพื่อชี้แจงแต่อย่างใด ส่วนการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เพื่อพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ในบ่ายวันนี้ (27 ก.ย.) ยังจะประชุมตามกำหนดการเช่นเดิม โดย บิ๊กโจ๊ก พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ แจ้งลาประชุม โดยอ้างว่าเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้วย