สนามข่าว 7 สี - เรื่องการเอาผิดมาตรา 157 กับกลุ่มตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ยิง สารวัตรแบงค์ ในงานเลี้ยง กำนันนก ต่อมา ผู้กำกับเบิ้ม ก็ปลิดชีพตัวเองภายในบ้าน จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า หรือนี่เป็นจุดแตกหักของขั้วตำรวจ จนนำมาสู่การบุกค้นบ้าน บิ๊กโจ๊ก และจับลูกน้องคนสนิท โดยกล่าวหาว่ามีความเชื่อมโยงกับเว็บฯ พนันออนไลน์
ทีมสนามข่าว 7 สี ย้อนข้อมูลการสืบสวนพยานหลักฐานให้คุณผู้ชมดูกันอีกครั้ง ในชั้นแรกที่ชุดสืบสวนและชุดสอบสวนจากกองปราบปราม เปิดดูจากกล้องวงจรปิด มีรายงานว่า คนที่วิ่งออกมาจากที่เกิดเหตุเป็นคนแรก มียศระดับผู้กำกับ เป็นอดีตตำรวจทางหลวง ซึ่งปัจจุบันไปดำรงตำแหน่งที่อื่น ตามมาด้วย ผู้กำกับเบิ้ม และผู้กำกับสืบสวนจังหวัดนครปฐม หลังจากเสียงปืนนัดแรกดังขึ้น
ในคลิปภาพยังปรากฏชัดว่ามีตำรวจชั้นประทวนเป็นคนประคองผู้บาดเจ็บทั้งสองคนออกจากจุดเกิดเหตุ โดยในส่วนของ สารวัตรแบงค์ ภาพที่มีการแถลงข่าวปรากฏชัดว่ามีการหามกันสามคน ส่วนกรณีของรองผู้กำกับที่กระสุนเฉียดไปโดนที่บริเวณแขน มีรายงานว่าเจ้าตัวลุกออกมาจากโต๊ะและเดินตรงมาที่ใกล้จุดจอดรถก่อนจะล้มตัวลง ซึ่งภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นสัญญาบัตรเดินออกไปจากจุดเกิดเหตุ ก็ได้เดินย้อนกลับมาเนื่องจากลืมโทรศัพท์มือถือ
ผู้กำกับเบิ้ม จึงเห็นว่ารองผู้กำกับที่ถูกยิงล้มอยู่ และน่าจะนำตัวออกไปจากจุดเกิดเหตุ เพื่อส่งโรงพยาบาล จึงมีภาพปรากฏว่ามีผู้กำกับนั่งอยู่ในรถยนต์ด้วย และจากคลิปที่ปรากฏออกมา ถ้าจำกันได้จะพบว่ามีอยู่ด้วยกัน 3 คลิป คลิปแรกจะเห็นว่าเป็นรถเก๋ง Toyota Camry ซึ่งในนั้นมีผู้บาดเจ็บลงมาจากด้านซ้ายของตอนหน้ารถ ส่วนอีกคลิปผู้บาดเจ็บลงมาจากรถกระบะ 4 ประตู ในสภาพต้องหามขึ้นเปลรถพยาบาลเข้าไปยังห้องฉุกเฉิน และคลิปสุดท้ายก็คือกลุ่มคนที่ปรากฏบริเวณด้านหน้าของห้องฉุกเฉิน ซึ่งสังเกตได้ว่าจุดนั้นจะมีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรหลายคน
จึงเป็นประเด็นที่ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตและตั้งคำถามว่า เหตุใดตำรวจที่ปรากฏอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ซึ่งบางส่วนขับรถตามมาในภายหลัง ถูกเอาผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 แต่ ผู้กำกับเบิ้ม ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตเนื่องจากการปลิดชีพตัวเองในบ้านพักไม่โดน คือรอดจากการถูกแจ้งข้อกล่าวหานี้เพียงคนเดียว โดยตำรวจบอกว่า ผลสอบชี้ชัดว่ามีการช่วยเหลือ สารวัตรแบงค์
ย้อนข้อมูลให้อีก สารวัตรแบงค์ เป็นสารวัตรทางหลวง มีบทบาทหน้าที่ในการสั่งการให้ดำเนินการจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินอย่างเข้มงวด ซึ่งการเอาจริงเอาจังในการดำเนินการปราบปราม และการไม่รับส่วยของ สารวัตรแบงค์ ก็เลยมีการพูดกันว่า ทำให้หลายฝ่ายได้รับผลกระทบ เพราะตำรวจซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้งที่จังหวัดนครปฐม และ จังหวัดสมุทรสาคร ไม่สามารถละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการจับกุมได้อย่างที่เคยทำ จึงสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มที่เคยดูแลตำรวจทางหลวงเหล่านี้
จึงเป็นที่มาของความพยายามในการเชื่อมความสัมพันธ์โดยการจัดงานเลี้ยงขึ้นที่บ้าน กำนันนก ซึ่งก่อนนี้ รายงานระบุชัดว่า สารวัตรแบงค์ ถูกเรียกตัวจากผู้บังคับบัญชาให้มาที่งานเลี้ยงทั้งที่เจ้าตัวได้ปฏิเสธมาตลอด แต่พอสุดท้ายยอมมาร่วมงาน ก็เลยเป็นที่มาของการดวลเหล้าเพื่อกระชับมิตร เชื่อมความสัมพันธ์ ลามไปถึงการขอตำแหน่ง แต่กลับถูกปฏิเสธ นี่จึงเป็นฟางเส้นสุดท้ายให้เกิดปฏิบัติการสังหารโหด
แต่ปมที่สำคัญคือเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายและอยู่ในที่เกิดเหตุ มีตั้งแต่ระดับสัญญาบัตรจนถึงชั้นประทวน กลับละทิ้งที่เกิดเหตุไม่ควบคุมจนผู้ก่อเหตุทำลายพยานหลักฐานและพาผู้ต้องหาที่ก่อเหตุหลบหนี ทั้งหมดนี้จึงยังเป็นคำถามในสังคมว่าเหตุใดจึงมีการละเว้นเฉพาะบุคคลโดยไม่ดำเนินคดีตามมาตรา 157 ซึ่งตามหลักกฎหมายแล้วจะมีการลงท้ายการแจ้งข้อหา ว่าไม่ต้องรับผิดเนื่องจากได้เสียชีวิตไปแล้ว