เช้าข่าว 7 สี - ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาคดีละเว้นการปฏฺิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 2 คดี คดีแรกพิพากษาจำคุก นายชัยวัฒน์ ลิมลิขิตอักษร เป็นเวลา 3 ปี อีกคดีจำคุก นายนิพนธ์ บุญญามณี เป็นเวลา 9 ปี
โดยคดีแรก เป็นคดีการหายตัวไปของนายบิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ นักต่อสู่กลุ่มชาติพันธุ์เชื้อสายกะเหรี่ยง บ้านบางกลอยบน จังหวัดเพชรบุรี เมื่อปี 2557 มี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กับพวกรวม 4 คน เป็นจำเลย
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายชัยวัฒน์ จับกุมผู้ต้องหา แต่ไม่ทำตามขั้นตอนของกฎหมาย คือไม่ส่งตัวให้ตำรวจพื้นที่ตามขั้นตอน พิพากษาจำคุก 3 ปี สั่งยกฟ้องจำเลยที่เหลือ ส่วนประเด็นการเสียชีวิตของนายบิลลี่ เนื่องจากไม่มีประจักษ์พยานยืนยัน จึงยกประโยชน์ให้จำเลย
ส่วนคดีร่วมกันกักขัง นายบิลลี่ ศาลเห็นว่า มีพยานเห็นจำเลยทั้ง 4 คน พานายบิลลี่ขึ้นรถ แต่ไม่มีการขู่บังคับโดยใช้อาวุธ และไม่มีพยานคนใดยืนยันได้ว่า จำเลยปล่อยตัวนายบิลลี่ลงที่บริเวณใกล้กับแยกไฟแดง
อีกคดีเป็นของนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตนายก อบจ.สงขลา ที่ถูก ป.ป.ช. ยื่นฟ้องฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีไม่เบิกจ่ายเงินให้ บริษัท พลวิศว์ เทคพลัส จำกัด เป็นค่ารถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ 2 คัน รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 50 ล้านบาท
โดยศาลพิจารณาแล้ว เห็นว่าจำเลยรู้ข้อเท็จจริงดี ว่ารถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ 2 คัน ได้ผ่านการตรวจสอบและตรวจรับจากคณะกรรมการตรวจรับพัสดุเป็นที่เรียบร้อย แต่มีเจตนาโดยตรงเพื่อประวิงเวลาให้ผู้ขายไม่สามารถดำเนินการโอนทะเบียน และไม่สามารถรับการชำระเงินตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ขายและ อบจ.สงขลา
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ข้อต่อสู้อื่น ๆ ของจำเลยยกขึ้นโต้แย้ง ไม่ทำให้มีผลคดีเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น พิพากษาลงโทษจำคุก 9 ปี เพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง 5 ปี
โดย นายนิพนธ์ ได้ยื่นประกันตัวชั้นอุทธรณ์ ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาต ตีราคาประกัน 200,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร
