ปมร้อนตั้ง ผบ.ตร. ทำสภาฯ เดือด

View icon 138
วันที่ 29 ก.ย. 2566 | 05.09 น.
เช้าข่าว 7 สี
แชร์
เช้าข่าว 7 สี - เรื่องฉาววงการตำรวจต้องบอกว่ามีมาแบบต่อเนื่อง ไม่เพียงแค่แวดวงคนปทุมวันนั่งไม่ติด แต่ยังลามเข้าไปถึงในสภาผู้แทนราษฎรด้วย ทำเอา นายกฯ เศรษฐา พลอยโดนลูกหลงไปด้วย เป็นอย่างไร ไปติดตามกัน

ปมร้อนตั้ง ผบ.ตร. ทำสภาฯ เดือด
อย่างที่เรารายงานคุณผู้ชมไปแล้วว่า หลังยืดเยื้อมาหลายเดือน จากปัญหารอยต่อรัฐบาลเก่า-ใหม่ ทำให้ช่วงเปลี่ยนผ่านก่อนได้ ผบ.ตร.คนใหม่ ใช้เวลาแบบเฉียดฉิว เพิ่งได้เคาะชื่อ ผบ.ตร.คนที่ 14 กันไปเมื่อวานซืนนี้ (27 ก.ย.) ก่อนพลตำรวจเอกดำรงคฺ์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ จะเกษียณอายุราชการ เพียงแค่ 3 วันเท่านั้นเอง ท่ามกลางมรสุมข่าวฉาวในแวดวงตำรวจหลายเรื่อง และความคาดหวังให้ นายกฯ เศรษฐา ในฐานะ ประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. เข้าไปสะสาง

โรม จวก นายกฯ หนีตอบกระทู้สด ไม่ให้ความสำคัญสภาฯ
เมื่อวานนี้ในสภาฯ ก็เรียกว่ามีทั้งทีมเชียร์ ให้กำลังใจและ การไล่บี้ จี้หาคำตอบ ผ่านการตั้งกระทู้ถามสดของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แต่ไม่ได้คำตอบจาก นายกฯ เพราะท่านติดภารกิจไปเยือนกัมพูชา ก็ทำให้ถูกตำหนิว่าไม่ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่า ทุกวันพฤหัสบดี จะมีกระทู้สด แต่กลับไม่มีการจัดสรรเวลา

โดนซัดหนัก ๆ แบบนี้ ก็ร้อนถึง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ต้องชี้แจงเลยว่า จะประสานไปยังรัฐบาลว่าการตอบกระทู้สดเป็นหน้าที่ ถ้านายกฯ ติดภารกิจ ก็ควรมีการมอบหมายรัฐมนตรีท่านอื่นมาตอบกระทู้แทน ซึ่งหากในการประชุมสัปดาห์หน้า นายกฯยังไม่มา สัญญาว่าจะให้นายรังสิมันต์ ถามโดยไม่ต้องมีผู้ตอบ

สภาฯ รุมยำ องค์กร ตร. บี้ นายกฯ เร่งปฏิรูป
นอกจากมีการตั้งกระทู้สดที่ไม่ได้คำตอบแล้ว ในสภาฯ ยังมีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ให้สภาฯ ร่วมกันเสนอวิธีแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในองค์กรสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย โดยนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย

หยิบยกเอาคำพูดของ บิ๊กโจ๊ก พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่บอกถ้าเปิดข้อมูลเชิงลึกออกมาจะตายทั้ง สตช. มาเป็นตัวอย่างของปัญหาที่ต้องเร่งสะสางภายในองค์กรตำรวจเอง

ขณะที่นายรังสิมันต์ เรียกร้องให้เร่งรัดปฏิรูปตำรวจ จากสารพัดปัญหาที่สะท้อนถึงระบบอุปถัมภ์ การข้ามหัวเติบโตอย่างรวดเร็วเพราะเส้นสาย และขอให้เร่งทำความจริงให้ปรากฏกรณีบุกค้นบ้านบิ๊กโจ๊กว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ รวมถึงเรื่องฉาวที่มีตำรวจไปพัวพัน เช่น กรณีงานเลี้ยงกำนันนกก็ต้องทำความจริงให้กระจ่าง จะขยายผลไปถึงปัญหาส่วยอย่างไร

วิโรจน์ แฉเพิ่ม สหกรณ์ตำรวจลำพูน โกงเงิน
ร้อนฉ่าในที่ประชุมสภาฯ ยังไม่พอ มีประเด็นฉาวเพิ่มจากการเปิดประเด็นของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.ตัวตึงของพรรคก้าวไกล เกี่ยวกับกระบวนการทุจริตเงินสหกรณ์ตำรวจจังหวัดลำพูน ที่ทำให้นายตำรวจชั้นประทวน มากกว่า 400 นาย กำลังจมในความทุกข์ อยู่ดี ๆ ก็เป็นหนี้ มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่า เรื่องแบบนี้ไม่ใช่มีเฉพาะที่ลำพูน น่าจะมีอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ

นายกฯ จ่อบริจาครายได้ทั้งหมด ให้การกุศล
แต่นอกจากจะมีเรื่องร้อน ๆ ให้หงุดหงิดหัวใจแล้ว มีคำชมดี ๆ ไปถึงท่านนายกฯ เหมือนกัน โดยเฉพาะกรณีที่ประกาศก่อนเดินทางไปกัมพูชา ว่า จะขอส่งต่อเงินเดือน+เงินประจำตำแหน่ง ราว 125,590 บาทต่อเดือน และเบี้ยประชุมของทุกเดือนที่ได้รับ ให้มูลนิธิฯต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้เปราะบางที่ต้องการการช่วยเหลือ โดยครั้งแรกจะบริจาคให้กับ มูลนิธิเด็ก

พูดถึงเงินเดือน สมัยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เคยมอบเงินเดือน 3 เดือน เพื่อนำไปใช้จ่ายเกี่ยวกับการแก้ปัญหา โควิด-19 มาแล้ว และยัง ส่งต่อเบี้ยประชุมของตัวเอง ให้กับแม่บ้านในหน่วยงานต่าง ๆที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปร่วมประชุม เพื่อนำไปใช้จายเป็นค่าอาหาร ค่าชา กาแฟ หรือ เบี้ยเลี้ยงให้กับแม่บ้านมาแล้วเช่นกัน

ก้าวไกล ขับ หมออ๋อง กอดเก้าอี้ รอง ปธ.สภาฯ คว้าตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านฯ
มาต่อกันที่ความเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกล เมื่อวานนี้ถูกนายอดิศร เพียงเกษ ประธานวิปรัฐบาล ดักคอว่า อย่าคิดขับหมออ๋อง ปดิพัทธ์ สันติภาดา ออกจากพรรค เพื่อรักษาเก้าอี้รองประธานสภาฯไว้ เพราะจะเหมือนกับเป็นการทำนิติกรรมอำพราง

แต่อาจเรียกได้ว่าพรรคก้าวไกล โนสน โนแคร์ เพราะอยากเก็บไว้ทั้ง 2 ตำแหน่ง ทำให้กรรมการบริหารพรรค มีมติขับ หมออ๋อง ออกจากพรรคเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็จะเป็นการเปิดทางโล่งให้ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล คว้าตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านฯ ไปครอง รักษาไว้ได้ทั้ง 2 ตำแหน่ง แต่ต้องเสีย หมออ๋อง ไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น ซึ่งก็คาดว่าน่าจะไปสังกัดพรรคเป็นธรรม ที่เปิดทุกประตูรออยู่แล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง