ดีเอสไอเผาทำลายเนื้อหมูแช่แข็ง ลักลอบนำเข้า 161 ตู้ น้ำหนัก 4 พันตัน มูลค่า 450 ล้านบาท เน่าแล้ว 7 ตู้จากทั้งหมด 161 ตู้ โดยทยอยเผาในระบบปิดครั้งละ 10 ตู้ หลังจากนี้จะนำไปฝังทำลายที่สระแก้ว
เนื้อหมูลักลอบน้ำเข้า วันนี้ (29 ก.ย.66) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เพื่อส่งมอบ - รับมอบ และนำตู้สินค้าประเภทซากสุกรของกลางลักลอบนำเข้า 161 ตู้ ในคดีพิเศษที่ 59/2566 กรณี ขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไปทำลาย
ทั้งนี้ ดีเอสไอ กรมศุลกากร และกรมปศุสัตว์ ได้ร่วมกันตรวจสอบของกลางดังกล่าว ในระหว่างวันที่ 5 - 14 ก.ค.66 และมีความเห็นร่วมกันให้นำของกลางดังกล่าวไปทำลายตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ต่อมาเมื่อวันที่ 27 ก.ย.66 มีการประชุมพิจารณาการทำลายของกลาง (ซากสุกร) นำเข้าจากต่างประเทศ จำนวน 161 ตู้ ในวันนี้ (29 ก.ย.66) โดยจะใช้วิธีเผาทำลาย ณ สำนักชลประทานที่ 9 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เบื้องต้นจะเริ่มทำลายครั้งละ 10 ตู้ โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานและร่วมเป็นสักขีพยานในการเผาทำลายของกลางครั้งนี้
สำหรับตู้สุกรแช่แข็งทั้ง 161 ตู้ พบว่ามีตู้เน่าทั้งหมด จำนวน 7 ตู้ ซึ่งจะดำเนินการเคลื่อนย้ายมาเผาทำลายในระบบปิด ก่อนจำนวน 10 ตู้ จากนั้นจะดำเนินการทำลายตู้สุกรแช่แข็งทั้ง 161 ตู้ ขั้นตอนต่อไปจะเคลื่อนย้ายไปฝังกลบในจังหวัดสระแก้ว แต่เนื่องจากเป็นช่วงมรสุม อาจจะมีการสลับกับการเผาที่สำนักงานชลประทานที่ 9 จังหวัดชลบุรี ในช่วงที่มีปัญหาฝนตก
การทำลายของกลางดังกล่าวในครั้งนี้ถือว่าเป็นการทำลายของกลางครั้งประวัติศาสตร์ ที่มีการทำลายสินค้าลักลอบจำนวนมากถึง 4.5 ล้านกิโลกรัม หรือ 4 พันตัน มูลค่ารวมกว่า 450 ล้านบาท