ห้องข่าวภาคเที่ยง - ขยี้กันต่อกับแวดวงสีกากี ที่ยังมีเรื่องให้ติดตามต่อเนื่อง เพราะ 361 วัน ในหน้าที่ ผบ.ตร.ของ บิ๊กต่อ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล มีปมท้าทายรอการพิสูจน์อยู่หลายเรื่อง โดยเฉพาะประเด็นที่ถูกมองว่ามีความขัดแย้งรุนแรงกับ บิ๊กโจ๊ก พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงขั้นล่าสุด หลังมีการแบ่งงานใหม่ให้บรรดา ผบ.ตร. ก็ถูกมองว่า ตั้งใจลดอำนาจบิ๊กโจ๊กที่เคยคุมงานสืบสวนหรือเปล่า เรามีบทสัมภาษณ์เปิดใจ บิ๊กต่อ ท่านว่าอย่างไร จะสยมปมดรามาได้หรือไม่
เมื่อวานนี้ ผบ.ตร.มีการลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง 3 ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นั่งรักษาการแทนตำแหน่งข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ว่างลง ให้พลตำรวจโทไกรบุญ ทรวดทรง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน จเรตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจโท สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานบริหาร และพลตำรวจโทธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน
ส่วนกลุ่มงานที่เหลือ ได้แบ่งให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอีก 3 คนกำกับดูแล ได้แก่ พลตำรวจเอกรอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานกฎหมายและคดี พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานความมั่นคง และพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานป้องกันและปราบปราม
ที่ถูกตั้งข้อสังเกตมากก็จะเป็นหน้างานของพลตำรวจเอกรอย เปลี่ยนจากรับผิดชอบงานความมั่นคงไปดูแลงานกฎหมายและคดี ขณะที่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ถูกโยกความรับผิดชอบจากงานสืบสวนสอบสวน อย่างที่ในอดีตเราจะเห็นท่านวาร์ปไปเกือบทั่วประเทศ ดูคดีใหญ่ ๆ สำคัญ ๆ ก็จากความรับผิดชอบนี้แหละ แต่ตอนนี้งานดังกล่าวหลุดไปอยู่ในมือของพลตำรวจโทธนา ชูวงศ์ แล้ว ส่วนบิ๊กโจ๊ก จะรับผิดชอบงานความมั่นคง
ซึ่งเรื่องนี้ บิ๊กต่อ ยืนยันไม่มีเรื่องเตะตัดขา ไร้การลดบทบาท อย่างที่กำลังดรามากันอยู่ในขณะนี้ เพราะความรับผิดชอบเหล่านี้ ท่านให้รอง ผบ.ตร.เลือกกันเองเลย โดยเรียงลำดับตามอาวุโส ผลก็ออกมาอย่างที่เห็น
ซึ่งก็สอดรับกับข้อมูลที่เราได้จากคนใกล้ชิด บิ๊กโจ๊ก ว่า ปีนี้ขอดูแค่งานด้านความมั่นคง อาชญากรรมข้ามชาติ และการปราบปรามค้ามนุษย์ ที่ทำมาต่อเนื่องยาวนาน ยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้งใด ๆ กับ ผบ.ตร. บิ๊กโจ๊กให้ความเคารพในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชา พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
ผู้การแต้ม พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มองว่า ประชาชนต้องเข้าใจก่อนว่า หน้างานหลัก ๆ ของ ตร. ที่สำคัญ ๆ จะมีอยู่ 3 ตำแหน่ง คือ ความมั่นคง ปราบปราม และสืบสวนสอบสวน อย่างกรณีของบิ๊กโจ๊ก ที่เปลี่ยนจากสืบสวนสอบสวนมาเป็นดูความมั่งคง ไม่ใช่การสกัด ลดบทบาท หรือการโยกเข้ากรุ เพียงแต่ความใกล้ชิดของประชาชนไม่เท่ากัน งานความมั่นคงถือเป็นงานสำคัญระดับประเทศ งานสำคัญของรัฐบาล คนที่จะได้รีบมอบหมายงานจะต้องมีความรู้ความสามารถ และบิ๊กโจ๊กเองก็เหมาะ เพราะอย่าลืมว่ากว่าจะมาถึงทุกวันนี้ บิ๊กโจ๊กเติบโตมาจากนักการเมือง ดังนั้นเมื่อต้องมาดูความมั่นคงถือว่าเหมาะสม เพียงแต่หน้างานอาจไม่ได้ออกสื่อ พบประชาชน จะเน้นงานหลังบ้านเป็นหลัก
แต่ผู้การแต้มยอมรับว่าอีกคน คือ บิ๊กรอย พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ที่ถูกมอบหมายให้รับผิดชอบงานกฎหมายและคดี จากเดิมดูความมั่นคง ถือว่าด้อยกว่าเก่าไปมาก เพราะงานกฎหมายถือว่าไม่มีอะไร ส่วนหลายคนมองว่าเป็นการสกัดผู้อาวุโสอันดับหนึ่งให้พ้นทางหรือไม่ ผู้การแต้มบอกว่าอย่าเพิ่งไปด่วนสรุป แม้ใจจะยอบรับว่างานที่บิ๊กรอยได้ถอยหลังไปเรื่อย แต่ทั้งหมดเป็นแค่ชั่วคราว ต้องรออย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้
ก็ต้องจับตามดูกันคุณผู้ชม ว่าคำสั่งอย่างเป็นทางการ จะมีรอง ผบ.ตร.คนไหนดูงานอะไร เพราะเมื่อถึงวันนั้น เชื่อว่าหลายคำถามที่สังคมสงสัยจะได้รับความกระจ่างมากขึ้น และอย่างที่บอกไปในตอนต้นว่า บิ๊กต่อตอนนี้นับถอยหลังการรับตำแหน่ง เพราะมีเวลาแค่หนึ่งปีเท่านั้น นับจากวันนี้ไปก็เหลือเวลาอีกแค่ 361 วัน ขอทำทุกวันให้เป็นประโยชน์กับประชาชน และยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกคน
