นักดำน้ำกู้ร่าง  2 สาว ติดอยู่ในรถ หลังขับรถหลงตกทะเล

นักดำน้ำกู้ร่าง 2 สาว ติดอยู่ในรถ หลังขับรถหลงตกทะเล

View icon 6.7K
วันที่ 4 ต.ค. 2566 | 10.40 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
รถเก๋งพุ่งตกทะเล เช้านี้ (4ต.ค.66) นักดำน้ำลงกู้ร่าง 2 สาวติดในรถขึ้นมาได้แล้ว 1 ในผู้รอดชีวิต ยอมรับ ไปเที่ยว กิน ดื่ม ก่อนเกิดเหตุ

จากกรณี เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันที่ 4 ต.ค.66  ร.ต.อ.ฐานิต ที่ภักดี รองสารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุ รถเก๋งพุ่งตกลงทะเล บริเวณท่าเรือเฟอรี่ สัตหีบ - เกาะสมุย ท่าเรือจุกเสม็ด ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี  โดยกล้องวงจรปิดบนเรือลากจูง สามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้ เหตุการณ์นี้มีผู้รอดขีวิต 1 คน คือ นายรวีภาพ  อายุ 20 ปี แต่ภายในรถยังมีเพื่อนสาวอีก 2 คนติดอยู่ไม่สามารถออกมาได้

ล่าสุดเมื่อเวลา 06.00 น.  เจ้าหน้าที่ประดาน้ำ จาก หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ และ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน ได้ร่วมกันดำลงไปนำร่าง ของ น.ส.ฮานึล อายุ 22 ปี และ น.ส. ณัฐวรรณ  อายุ 23 ปี   ที่ติดอยู่ภายในรถเก๋งช่วงเบาะหน้า  ที่ระดับความลึก 15 เมตร ขึ้นมาจากน้ำ จากนั้นได้ใช้รถเครนกู้รถเก๋งขึ้นมาจาก ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำร่างทั้งคู่ ส่งชันสูตร ยังสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ กทม เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัด

นายรวีภาพ ผู้รอดชีวิต เล่าเหตุการณ์ว่า ตนและเพื่อน ๆ รวม 4 คน ได้เดินทางมาจาก กทม. เพื่อมาเที่ยวในพื้นที่ อ.สัตหีบ รวม 4 คน เป็น ชาย 1 คน และ หญิง 3  คน หลังจากเลิกเที่ยวกัน ได้ขับรถเก๋ง  มาส่งเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่ ต.แสมสาร  จากนั้นเพื่อนได้ขับรถกลับออกมา แต่ปรากฏว่าขับหลงทางเข้าไปทางท่าเรือจุกเสม็ดได้อย่างไรไม่ทราบ ก่อนจะหลงทางขับรถพุ่งตกลงไปในทะเล

ตนตกใจมากจึงได้ถีบกระจกรถและดันตัวรอดออกมา จากนั้นได้ว่ายน้ำขึ้นฝั่งอย่างหวุดหวิด เมื่อขึ้นจากน้ำได้ตะโกนเรียกอยู่พักหนึ่ง และตะโกนขอความช่วยเหลือ ส่วนเพื่อนหญิงสองคนคือ คนขับ และคนนั่งข้างคนขับ ติดอยู่ในรถจมลงไปใต้ทะเล ทั้งนี้ยอมรับว่าทุกคนดื่มแอลกอฮอล์กันมาและ มีอาการมึนเมา

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบภาพรถเก๋งตกลงไปในทะเลบริเวณดังกล่าวจริง จึงได้ประสานหน่วยงานกองทัพเรือ และหน่วยกู้ภัยสัตหีบ ลงพิสูจน์ทราบ ก่อนนำร่างผู้เสียชีวิต และนำซากรถยนต์เก๋ง ขึ้นมาตรวจสอบ ก่อนจะเรียกผู้บาดเจ็บมาสอบสวน อย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง