สนามข่าว 7 สี - เรื่องนี้ยังมีคำถามดัง ๆ ด้วยว่า เด็กอายุ 14 ปี เข้าไปใช้บริการสนามยิงปืนได้อย่างไร หรือเป็นการไปซ้อมยิงปืนก่อนลงมือก่อเหตุหรือไม่
เด็กชาย อายุ 14 ปี ไปใช้บริการสนามยิงปืนได้อย่างไร
โดยมีภาพผู้ก่อเหตุกราดยิง เข้าไปซ้อมยิงปืนที่สนามยิงปืนแห่งหนึ่งในเขตพระนคร ประกอบกับการค้นบ้านพัก พบอาวุธปืนบีบีกัน เครื่องกระสุนปืน 9 มม. 49 นัด และปลอกกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง นั่นก็สามารถสะท้อนให้เห็นว่า ผู้ก่อเหตุมีความชื่นชอบและคลั่งไคล้อาวุธปืนเป็นอย่างมาก
จึงมีคำถามว่าเด็กอายุ 14 ปี สามารถเข้าไปใช้บริการในสนามยิงปืนเพียงลำพังได้หรือไม่ และการไปซ้อมยิงปืน เพื่อเตรียมก่อเหตุหรือไม่
ทางทีมข่าวช่อง 7HD ลงพื้นที่ไปที่สนามยิงปืนราชสวัสดิ์มงคล เพื่อหาข้อมูลในเรื่องนี้ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าที่นี่ไม่ใช่สนามยิงปืนที่เด็กชาย 14 ปี เข้ามาใช้บริการ เพราะที่นี่คนที่ใช้บริการต้องอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีเจ้าหน้าที่ดูแลการใช้อาวุธปืนอย่างใกล้ชิด แนะนำขั้นตอนการใช้ช่องยิงและกฎการใช้อาวุธปืนอย่างถูกต้อง
หากอายุต่ำกว่า 18 ปี สนามแห่งนี้จะไม่ให้ใช้บริการอย่างเด็ดขาด ยกเว้นมีผู้ปกครองเท่านั้น อีกทั้งไม่สามารถฝึกซ้อมได้เพียงลำพัง จะต้องมีเจ้าหน้าที่ประกบและดูแลยังใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยอย่างสูงสุด
นอกจากนี้ยังมีกฎข้อบังคับและข้อปฏิบัติ เช่น ต้องตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวบุคคลและอายุที่ชัดเจน ตรวจสอบอาวุธปืนที่นำเข้ามาใช้ หากเป็นปืนแบลงก์กัน ไม่ให้ใช้ในสนามยิงปืนแห่งนี้ เนื่องจากเป็นอาวุธที่อันตราย อาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตของตนเองและผู้อื่น
ทีมข่าวยังเจาะลึกข้อมูลคำรับสารภาพของผู้ก่อเหตุ พบว่าได้ไปฝึกยิงปืนที่สนามยิงปืนแห่งหนึ่งเพียงคนเดียว เกินกว่า 20 ครั้งติดต่อกัน ในช่วงเวลาเพียง 1 เดือน โดยอ้างกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นชาวต่างชาติ พูดคุยเป็นภาษาต่างชาติ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบอายุ
เรียกร้องรัฐฯ ควบคุมปืนแบลงก์กัน
ขณะที่ นายฐิติธร บุพพารัมณีย์ นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจอาวุธปืนแห่งประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญและคร่ำหวอดในวงการปืน พูดถึงเรื่องนี้แบลงก์กัน (Blank Gun) ว่าเป็นปืนที่มีลักษณะภายนอกคล้ายกับปืนจริง แต่ชิ้นส่วนภายในมีคุณภาพด้อยกว่า แต่ก็ดีกว่าปืน "บีบีกัน" โดยแบลงก์กันใช้ถ่ายทำภาพยนตร์เพื่อความสมจริง, การปล่อยตัวนักกีฬา, เกษตรกรนำไปยิงไล่นก หรือเพื่อการสะสม
ส่วน บีบีกัน ไม่สามารถนำมาดัดแปลงให้ใช้กระสุนจริงได้ เพราะกลไกแตกต่างจากปืนจริงโดยสิ้นเชิง ส่วนใหญ่จึงนำแบลงก์กันมาดัดแปลง เพราะโครงสร้างคล้ายปืนจริง ซึ่งการดัดแปลงต้องบอกว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
เหตุกราดยิงที่เกิดขึ้น เป็นกรณีตัวอย่างที่หน่วยงานภาครัฐ และกรมการปกครอง จะต้องนำมาทบทวน จัดระเบียบผู้ครอบครองปืนแบลงก์กัน ให้ง่ายต่อการตรวจสอบ เพราะปืนแบลงก์กันซื้อมาครอบครองได้ง่าย ไม่ต้องขออนุญาต เพราะถือเป็นสิ่งเทียมอาวุธปืน จึงสั่งนำเข้ามา-หาซื้อได้ง่าย ช่างดัดแปลงปืนก็มีให้เห็นเต็มโซเชียล ให้บริการอย่างโจ่งแจ้ง ไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงอยากให้เดินหน้ากวาดล้างจับกุม
ตอนนี้ในหลายประเทศให้ความสำคัญกับการควบคุมปืนแบลงก์กัน เช่น ให้บุคคลที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถครอบครองปืนแบลงก์กันได้ และบางประเทศต้องพ่นสีให้เกิดความแตกต่างจากปืนจริงชัดเจน