ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจ สน.ยานนาวา คุมตัวผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการขายปืนและกระสุน ให้กับเด็กชาย อายุ 14 ปี ไปใช้ก่อเหตุกราดยิงในศูนย์การค้าสยามพารากอน อีก 4 คน ไปขออำนาจศาลฯ ฝากขัง ขณะที่ตำรวจสอบสวนกลาง มีการระดมกำลังตำรวจลุยตรวจค้นพื้นที่ 47 จังหวัด เพื่อกวาดล้างจับกุมปืนเถื่อนผิดกฎหมาย
หลังจากที่ตำรวจนครบาล ขยายผลการจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายปืนและกระสุนให้กับเด็กชาย อายุ 14 ปี ไปใช้ก่อเหตุกราดยิงในศูนย์การค้าสยามพารากอน จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา ล็อตแรก 3 คน ที่จับกุมตัวและฝากขังศาลไปแล้ว และเมื่อวันเสาร์ก็ไปจับกุมล็อตที่ 2 อีก 3 คน และจับกุมตัวเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 4 คน ประกอบด้วยคนขายกระสุนปืน และคนที่เกี่ยวข้องกับบัญชีรับโอนเงิน นำตัวกลับมาสอบสวนที่ สน.ยานนาวา
จากการสอบสวนปรากฏว่า นายภัสสรกรณ์ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายกระสุนปืน ขนาด 9 มม. ให้การปฏิเสธ โดยจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ส่วนอีก 3 คน ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีรับโอนเงิน นางสาวสุธิดา ยังคงยืนยันว่าสามี ซึ่งก็คือ นายธนาวุฒิ เป็นคนนำบัญชีธนาคารไปใช้ โดยที่ตนไม่รู้เรื่อง ส่วน นายธนาวุฒิ ให้การรับสารภาพว่า ทำหน้าที่เป็นคนกลางโพสต์ขายกระสุนปืนในกลุ่มซื้อขายอาวุธปืน โดยได้รับส่วนแบ่งค่านายหน้าจัดหาลูกค้า ส่วนคนสุดท้าย นายวุฒิพงษ์ ที่รับโอนเงินค่ากระสุนปืน ให้การปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายปืนและกระสุน แต่ยอมรับว่ารู้จักกับ นายธนาวุฒิ และถูกว่าจ้างให้ไปเปิดบัญชีธนาคารให้
ส่วนในเช้าวันนี้ พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา พาตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขัง ในความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนและกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
โดยระหว่างพาตัวไปขึ้นรถ ทั้งหมดไม่ขอตอบคำถามใด ๆ ของสื่อมวลชน แต่ก็มีข้อมูลรายงานข่าวว่าตัว นายธนาวุฒิ และ นางสาวสุธิดา สามี-ภรรยา ค่อนข้างเครียด เพราะเป็นห่วงลูกอายุ 3 ขวบ และ 5 ขวบ เกรงจะไม่มีคนดูแล
อย่างที่เราเคยนำเสนอข่าวไปว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการประชุมและสั่งระดมกวาดล้างอาชญากรรม อาวุธปืนผิดกฎหมายไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งก็มีเป้าหมาย 2,300 แห่ง ทั่วประเทศ เช้าวันนี้ ตำรวจกองบัญชาการสอบสวนกลาง ระดมกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ และชุดปฏิบัติการพิเศษ "หนุมานกองปราบฯ " รวม 827 นาย ลงพื้นที่ 47 จังหวัด ลุยตรวจค้นเป้าหมาย 114 จุด ที่มีเป้าหมายจับกุมคนที่จำหน่าย ใช้ หรือพกพาอาวุธปืนเถื่อน ปืนไทยประดิษฐ์ และปืนดัดแปลง ซึ่งตอนนี้ตำรวจยังอยู่ระหว่างการลงพื้นที่กวาดล้างจับกุม ก่อนจะสรุปผลปฏิบัติการครั้งนี้ต่อไป
