ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ทุกครั้งที่เกิดสงครามในตะวันออกกลาง สิ่งที่ตามมามักเป็นปัญหาพลังงาน หรือน้ำมันที่แพงขึ้นมา ซึ่งสงครามระหว่างอิสราเอล กับฮามาสก็เช่นกัน จะส่งผลต่อค่าครองชีพมาถึงประเทศไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งที่ทุกวันนี้ ก็ต้องเผชิญกับน้ำมันและพลังงานแพงอยู่แล้ว
ผลจากการที่กลุ่มฮามาส เปิดฉากโจมตีอิสราเอล จนนำมาสู่การที่อิสราเอลโจมตีเอาคืนในตอนนี้ ทำให้น้ำมันดิบปรับราคาสูงขึ้น ต่างจากสัปดาห์ที่แล้ว ที่ราคาน้ำมันดิบลดลงต่ำสุดนับจากเดือนมีนาคม เนื่องจากความต้องการทั่วโลกลดลง น้ำมันดิบที่ปรับแพงขึ้น แน่นอนว่าสงครามครั้งนี้ นอกจากกระทบคนไทยที่ไปขายแรงงานในอิสราเอลแล้ว ยังส่งผลกระทบถึงคนไทย ที่อาจจะต้องเตรียมรับมือกับการเติมน้ำมันที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มมากขึ้น
ศาตราจารย์กิตติคุณ ดร.สุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการด้านการทหารและความมั่นคง มองว่าทุกครั้งที่เกิดสงครามในตะวันออกกลาง จะเกิดผลกระทบเรื่องใหญ่ที่สุดเสมอ คือ ปัญหาราคาพลังงาน ในอดีตสงครามในตะวันออกกลางทุกครั้ง ทำให้ราคาพลังงานสูงขึ้น รอบนี้ก็เหมือนกัน ราคาน้ำมันจะยิ่งไปซ้ำซ้อนกับปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้ราคาพลังงานสูงอยู่แล้ว ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพประชาชน รวมถึงในประเทศไทยด้วย ดังนั้นประชาชนและภาคธุรกิจ ต้องเตรียมรับมือกับเรื่องราคาน้ำมัน ราคาพลังงานนับจากนี้ด้วย
ศาตราจารย์กิตติคุณ ดร.สุรชาติ บอกด้วยว่า การเปิดฉากโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสครั้งนี้ ถือเป็นการก่อการร้ายรูปแบบใหม่ ที่ใช้การโจมตีทั้งทางอากาศ ทางบก เพราะว่าแต่ก่อนฮามาสใช้การโจมตีลอบวางระเบิด วางระเบิดฆ่าตัวตาย หรือยิงจรวจเข้าอิสราเอล ซึ่งต้องติดตามว่า สงครามอิสราเอลกับฮามาสครั้งนี้ จะขยายตัวไปเป็นการก่อการร้าย เหมือนที่เคยเห็นในอดีตหรือไม่ เพราะถ้าขยายตัวเป็นการก่อการร้าย และนำไปสู่การก่อเหตุในหลายพื้นที่ โลกก็จะกลับสู่ยุคของการก่อการร้ายอีกแบบหนึ่ง และจะกระทบกับเศรษฐกิจ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น
สงครามจะขยายตัวหรือไม่ หรือจะเป็นการต่อสู้กันระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ศาตราจารย์กิตติคุณ ดร.สุรชาติ บอกว่า ต้องดูสถานการณ์อีกสักระยะ แต่ที่แน่ชัดขณะนี้ แค่ช่วงเริ่มต้นของการสู้รบ ราคาน้ำมันดิบก็พุ่งขึ้นสูงไปแล้ว ซึ่งคนไทยเราหลีกเลี่ยงไม่พ้น ที่จะต้องเจอกับน้ำมันราคาแพง จากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง
