ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจกองปราบฯ ไปจับกุมชายคนหนึ่ง อายุ 29 ปี อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง หลอกลวงผู้เสียหายที่เป็นผู้ประกอบการร้านค้า ร้านขายอาหาร ว่าจะพาบุคคล VVIP ไปใช้บริการ แล้วเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่าย จนมีผู้เสียหายหลายคนหลงเชื่อ ยอมจ่ายเงินไปให้ รวมความเสียหายกว่า 9 แสนบาท
ผู้ต้องหา คือ นายจุฬาธิปก อายุ 29 ปี ถูกจับกุมตัวได้คาสนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนพาตัวกลับมาสอบสวนที่กรุงเทพฯ หลังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีว่าถูกชายคนนี้อ้างเป็นเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง หลอกเก็บเงินค่าดำเนินการต่าง ๆ เหตุการณ์เกิดขึ้นไล่มาตั้งแต่มกราคม ปี 2564 - 4 กรกฎาคมปีนี้ เบื้องต้นพบมีผู้ถูกหลอกไม่น้อยกว่า 15 ราย ความเสียหายรวมกันกว่า 908,000 บาท
พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า พฤติการณ์ของผู้ต้องหารายนี้จะคล้าย ๆ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เริ่มจากการตั้งชื่อไลน์ตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น ฬ.จุฬา, สำนักพระราชวัง, ศ.สถิตย์ และอีกหลายต่อหลายชื่อที่ชวนให้หลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวัง โทรไปหาผู้เสียหายที่เป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร และร้านค้า ทำทีขอติดต่ออ้างว่าจะพาบุคคลสำคัญไปใช้บริการที่ร้าน แล้วเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าฉายพระรูป, ค่าเข็มที่ระลึก แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
กระทั่งต่อมาพอผู้เสียหายรวมตัวเข้าแจ้งความ จนศาลออกหมายจับให้ 3 หมาย ทำให้ นายจุฬาธิปก ไหวตัวหลบหนีไปอยู่ประเทศเมียนมา ตำรวจจึงประสานขอความช่วยเหลือผ่านทางเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ให้ทางการประเทศเมียนมา ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี กระทั่งต่อมาชุดจับกุมได้รับการประสานว่าผู้ต้องหาจะเดินทางกลับเข้าไทย จึงประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไปรอจับกุม พอเจ้าตัวมาถึงจึงเข้าควบคุมตัวทันที
ส่วนการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ยอมรับว่าได้หลอกลวงผู้เสียหายจริง แต่ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และทำทั้งหมดนี้เพียงคนเดียว แต่จากข้อมูลของตำรวจกลับพบว่าผู้ต้องหาเคยทำงานให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาก่อน และยังนำเงินที่ได้จากการหลอกลวงไปฟอกเงินกับกลุ่มเว็บฯ พนัน และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจจะขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
