วันที่ไร้ตำรวจรถไฟคุ้มกันขบวนรถไฟชายแดนใต้

ห้องข่าวภาคเที่ยง - วันนี้เป็นวันแรกที่ไม่มีตำรวจรถไฟประจำบนขบวนรถไฟ หลังยุบกองบังคับการตำรวจรถไฟ ทำให้ชาวบ้านในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่างหวั่นวิตกเรื่องความปลอดภัย เพราะเป็นพื้นที่เกิดเหตุการณ์ไม่สงบบ่อยครั้ง และจะมีการแก้ปัญหานี้อย่างไร ติดตามจาก คุณอรรถพล ดวงจินดา

ตอนนี้ผมอยู่บนขบวนรถไฟขบวนกรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก แม้ว่าวันนี้จะไม่มีตำรวจรถไฟอยู่บนขบวนรถไฟแล้ว แต่พบว่ายังมีเจ้าหน้าที่ รปภ. และอาสาสมัครรักษาดินแดน คอยดูแลความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารตลอดเส้นทาง ไปจนถึงสถานีปลายทางสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส กันเลย

เป็นภาพบรรยากาศการเดินทางโดยรถไฟของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างรถไฟขบวนนี้เป็นรถไฟขบวนสายกรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก ที่จอดรับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานียะลา ก็มีประชาชนใช้บริการกันตามปกติ แม้ว่าวันนี้ (17 ต.ค.) จะเป็นวันแรกหลังจากยุบกองบังคับการตำรวจรถไฟ ทำให้บนขบวนรถไฟทุกขบวนจะไม่มีตำรวจรถไฟขึ้นมาทำหน้าที่เหมือนเดิม อย่างที่เคยทำมายาวนานกว่า 72 ปี

ทีมข่าวขึ้นมาบนขบวนรถไฟ และโดยสารไปด้วย สอบถามความรู้สึกของชาวบ้านที่โดยสารบนรถไฟ ยอมรับว่า เมื่อไม่มีตำรวจรถไฟก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังตัวเองมากขึ้น และมองว่าการมีตำรวจรถไฟอยู่บนขบวนรถไฟจะรู้สึกอุ่นใจ เพราะคอยดูแลความเรียบร้อย และความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร

แต่สำหรับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ไม่ค่อยกังวลมากนัก เนื่องจากยังมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกองร้อยรักษาดินแดน หรือ อส. ที่มีอาวุธประจำกาย เดินตรวจอยู่บนขบวนรถไฟ ขบวนละ 8-10 นาย ตั้งแต่สถานีชุมทางหาดใหญ่ จนถึงสถานีสุไหงโก-ลก อีกทั้งเมื่อรถจอดตามสถานีต่าง ๆ ก็ยังมีเจ้าหน้าที่รถไฟฯ และ รปภ. อยู่ทุกจุด

ด้าน อส. ที่ทำหน้าที่อยู่บนขบวนรถไฟ ยอมรับว่า อำนาจในการบังคับใช้กฎหมายระงับเหตุอาจทำได้ต่างกัน และไม่เทียบเท่าตำรวจ แต่เมื่อไม่มีตำรวจรถไฟ พวกตนซึ่งมีหน้าที่ผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ก็พร้อมจะช่วยเหลือ และคอยประสานกับตำรวจในแต่ละท้องที่
หน้าที่ อส.

ขณะที่ข้อมูลสถิติของเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผ่านการรับรอง 3 ฝ่าย ตั้งแต่เดือนมกราคม - วันที่ 30 กันยายน 2566 มีเหตุเกิดขึ้น 73 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 22 คน มีผู้บาดเจ็บ 122 คน บ้านเรือนทรัพย์สิน รวมถึงขบวนรถไฟ และเหตุที่เกิดบริเวณรางรถไฟรวม 70 ครั้ง

อย่างพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เจ้าหน้าที่ทั้งการรถไฟ รปภ. และ อส. ระบุว่า ยินดีและพร้อมจะช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร ซึ่งหากพบผิดปกติ หรือเกิดเหตุขึ้น ก็ให้เรียกเจ้าหน้าที่ที่อยู่บนขบวนรถไฟได้ทันที ซึ่งจะเพิ่มความเข้มงวดในการเดินตรวจให้ถี่ขึ้น เพื่อความปลอด
ภัยของผู้โดยสาร